ตำรวจ-สธ.ทลายโรงงานผลิต-จำหน่ายยาแก้ไอปลอม ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และภูเก็ต พบวัยรุ่นนำมาผสมเป็นยาเสพติด 4×100 จับยึดของกลางมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท…
จากการแพร่ระบาดของยาเสพติด 4×100 ในกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ มีการใช้ยาแก้ไอผสมกับน้ำอัดลม และอาจผสมกับยาบางชนิดใช้สำหรับดื่มเพื่อความมึนเมาและเสพติด ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้ผลิตยาน้ำแก้ไอยี่ห้อ “ไดเฟ็นนิล” ว่า พบการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอที่ไม่ได้มาจากสถานที่ผลิตของโรงงาน จนนำไปสู่การสืบสวนกระบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอ ใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ภูเก็ต ซึ่งผลการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.64 ทำให้สามารถยึดของกลางมูลค่า 30 ล้านบาท จากโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ระบุว่า ผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ลักลอบผลิตและจำหน่ายตามร้านขายยาในภาคใต้ โดยกลุ่มเยาวชน จะนำยาแก้ไอหรือยาแก้แพ้ชนิดน้ำเชื่อมมาผสมกับน้ำกระท่อม หรืออย่างอื่นแล้วแต่สูตรของแต่ละพื้นที่ นำมาดื่มเพื่อให้เกิดอาการมึนเสียสุขภาพ ผู้ปกครองจึงต้องหมั่นสอดส่องดูแลบุตรหลาน อย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ อย. และ สสจ. ภูเก็ต ร่วมกันตรวจค้นร้านขายยาและดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการทางปกครองอย่างถึงที่สุด ซึ่งยาน้ำแก้ไอที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือโปรเมทาซีน หรือเดกซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ จำกัดปริมาณการขายจากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 300 ขวด/แห่ง/เดือน และจำกัดการขายไม่เกินครั้งละ 3 ขวด โดยผู้รับอนุญาตและเภสัชกรมีหน้าที่จัดทำบัญชีซื้อและขายยาให้เป็นจริง หากพบร้านขายยาใดฝ่าฝืน นอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้ว จะเสนอคณะกรรมการยาให้ความเห็นชอบในการพักใช้ใบอนุญาตขายยาจนกว่าคดีถึงที่สุด ปัจจุบันยังมีการรั่วไหลของยาดังกล่าวออกนอกระบบ ทำให้มีการแพร่ระบาดยาปลอมอยู่
อย่างไรก็ตาม หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556.