เร่งตรวจสอบเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล กลางทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง หลังสามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้วเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา และคาดเหลือปริมาณน้ำมันในทะเลประมาณ 2 หมื่นลิตร…
วันที่ 28 ม.ค.2565 ความคืบหน้าเหตุ บริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม จำกัด มหาชน ได้แจ้งว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหล 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร
เบื้องต้นอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบแล้ว ขณะที่กองทัพเรือภาคที่ 1 ได้ใช้เครื่องบินบินลาดตระเวน สำรวจการเคลื่อนที่ของน้ำมัน พบว่ามีปริมาณน้ำมันหลงเหลืออยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน
โดยบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่าสามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว เช่นเดียวกับพลเรือโทปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ที่ย้ำว่า หยุดการรั่วไหลได้แล้วเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยกองทัพเรือได้นำเครื่องบินลาดตะเวน ขึ้นบินสำรวจคราบน้ำมันทางอากาศ ยังส่งเรือออกตรวจสอบคราบน้ำมันบนผิวน้ำ
นอกจากนี้ยังจัดเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ เข้าตรวจสอบทิศทางการรั่วไหลของคราบน้ำมัน รวมถึงนำสารเคมีขึ้นไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หน้าท่าเรือมาบตาพุดด้วย
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า มีน้ำมันรั่วไหลลงทะเลประมาณ 20,000 ลิตรเท่านั้น และเมื่อประเมินจากทิศทางลมและการไหลของน้ำ ค่อนข้างมั่นใจว่าน้ำทะเลจะไม่พาน้ำมันเข้าใกล้ชายฝั่ง
อย่างไรก็ตาม หากภายในสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น อาจจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเองอีกครั้ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการกำจัดคราบน้ำมัน บริษัทจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยกำลังดำเนินการเอาผิดกับบริษัทเจ้าของน้ำมันตามกฎหมายด้วย
ขณะเดียวกันทางภาคประชาชน อาทิ ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านกันปีก , ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กปากน้ำบ้านเรา ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน พ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลสด เนื่องจากกังวลจะได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วในครั้งนี้
โดยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายอภิชาต ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสภาผู้แทนราษฎรพร้อม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากไม่ทราบปริมาณน้ำมันที่รั่วชัดเจน รวมทั้งอยากทราบผลกระทบระยะสั้นระยะยาว เยียวยาสภาพแวดล้อม รวมถึงอยากทราบมาตรการป้องกันเหตุในอนาคต
โดยในช่วงค่ำที่ผ่านมา มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ผวก.กนอ.) กล่าวว่า น้ำมันดิบรั่วไหลไม่เกิน 1.6 แสนลิตร หรือคิดเป็น 128 ตัน ปิดวาว์ลได้สำเร็จล้อมพื้นที่น้ำมันดิบรั่วไหลในรัศมีไม่เกิน 1 ตาราง กม. พร้อมทั้งพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมันโดยจุดเกิดเหตุห่างจากฝั่ง 20 กม. โดยจะทำงานตลอด 24 ชม. สำหรับคืนนี้จะเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้น้ำมันดิบขึ้นฝั่งกลัว จะมีผลกระทบต่อชาวบ้านและชาวประมงริมชายฝั่ง จะรีบกำจัดคราบน้ำมันให้หมดก่อนวันที่ 30 มค.
ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประกาศเตือนให้เฝ้าระวัง และหลีกเลี่ยงในการลงเล่นน้ำทะเล บริเวณที่มีคราบน้ำมันโดยเด็ดขาด