อย. เปิดตัวแอปพลิเคชั่น ‘ปลูกกัญ’ How To วิธีจดแจ้งปลูก ‘กัญชา’ อย่างถูกกฎหมาย ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว…
วันนี้ (1 มิถุนายน 2565) นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีผลบังคับใช้ วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผลให้ทุกส่วนของ “กัญชา” และ “กัญชง” ไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% ประชาชนสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่จดแจ้งนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการจดแจ้งการปลูก กัญชา กัญชง ให้แก่ประชาชน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
จึงได้จัดทำแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” และเว็บไซต์ http://plookganja.fda.moph.go.th โดยแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เพื่อออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิถุนายน 2565
โดยจดแจ้งเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ
1. ลงทะเบียน
2. จดแจ้งตามวัตถุประสงค์
3. รับเอกสารจดแจ้งอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งจะทำให้ทราบจำนวนและแหล่งที่ปลูก “กัญชา” และ “กัญชง” ทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้ประกอบการแสวงหาวัตถุดิบ เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานออกสู่ตลาด เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย
พร้อมกันนี้ อย. ได้อบรมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กรุงเทพมหานคร และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในการจดแจ้งปลูก “กัญชา” และ “กัญชง”
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการที่กรมอนามัยได้เสนอ ร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง คำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุม เหตุรำคาญ จากการกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด พ.ศ. …. เพื่อเป็นแนวทาง สำหรับราชการส่วนท้องถิ่น ใช้ควบคุมเหตุรำคาญ และเสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำ ให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. …. ต่อคณะกรรมการสาธารณสุขในการประชุม ครั้งที่ 137-2/2565 วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
ซึ่งคณะกรรมการสาธารณสุขมีมติเห็นชอบ ร่างคำแนะนำฯ ดังกล่าว โดยหลังจากนี้ กรมอนามัยจะได้ชี้แจงให้กับท้องถิ่นเพื่อถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ร่างคำแนะนำต่อราชการส่วนท้องถิ่น ได้กำหนดให้การควบคุมเหตุรำคาญตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยการสาธารณสุข มีดังนี้
1) ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน โดยไม่ก่อเหตุรำคาญ จากกลิ่น หรือ ควันรบกวนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
2) เมื่อได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนเหตุรำคาญ เรื่อง กลิ่นหรือควันจากการสูบกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด ให้เจ้าพนักงานดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย โดยศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เช่น สถานที่หรือบริเวณที่ถูกร้องเรียน สถานที่ที่ประชาชนร้องเรียน แหล่งกำเนิดกลิ่นหรือควัน ลักษณะกลิ่น ช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น
3) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเรื่องร้องเรียนไม่เป็นเหตุรำคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งผู้ร้องเรียนทราบ และยุติเรื่อง
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรณีพบว่าเรื่องร้องเรียนนั้น เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้เจ้าพนักงานพิจารณาออกคำแนะนำ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุปรับปรุงแก้ไขปัญหาเหตุรำคาญ โดยให้ระบุข้อเท็จจริงที่ตรวจพบ รวมทั้งระบุมาตรการหรือวิธีการที่ใช้ ในการแก้ไข หรือปรับปรุงให้เหตุรำคาญนั้นระงับไปภายในระยะเวลาที่กำหนด
4) ให้เจ้าพนักงานติดตามตรวจสอบ การดำเนินการตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานที่กำหนดให้ผู้ถูกร้องเรียนต้องปฏิบัติ หากผู้ถูกร้องเรียนไม่ดำเนินการ ตามคำแนะนำ ให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งทางปกครอง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 27 หรือ มาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี เพื่อให้ผู้ก่อเหตุดำเนินการปรับปรุงแก้ไข หรือระงับเหตุรำคาญ
“กรณีผู้ถูกร้องเรียนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครอง ให้เจ้าพนักงานดำเนินการส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข โดยอัตราโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาทถ้วน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้ถูกร้องเรียนปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครอง เรื่องยุติ ให้เจ้าพนักงานแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.