ฝุ่นขาขึ้น 70 พื้นที่กทม.ฝุ่นพุ่งเกินมาตรฐาน (1-4ก.พ.) คาด 4-8 ก.พ.จะเริ่มคลาย เสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กทม. สรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 1 ก.พ. (05.00-07.00 น.) ตรวจวัดได้ 57-97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 72.5 มคก./ลบ.ม. ค่า PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 67 -70 พื้นที่ เรียงสูงสุด 3 อันดับ เขตประเวศ, เขตบางนา, เขตหนองแขม
คาดอัตราการระบายอากาศ ช่วง 31 ม.ค.-3 ก.พ.66 จะไม่ดี จากเพดานอากาศต่ำ เกิดสภาวะอากาศปิดอย่างต่อเนื่อง ช่วง 1-2 ก.พ. เป็นช่วงที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมไทยมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
สำหรับช่วง 4-8 ก.พ. 2566 คาดว่าอัตราการระบายอากาศจะดี อีกทั้งความกดอากาศสูงจากจีนจะออกมานอกชายฝั่งทำให้ทิศของลมหนาวเปลี่ยนจากตะวันออกเฉียงเหนือมาเป็นตะวันออก ส่งผลให้จะมีการเริ่มพัดพาฝุ่นควันจากกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคกลาง และ กทม. เป็นปรากฏการณ์ปกติของการเปลี่ยนผ่านไปยังฤดูร้อน ลมใต้จะทวีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วง 1-4 ก.พ.2566 พื้นที่ กทม.และปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง จากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด พื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม)
ขณะที่หมอกควันภาคเหนือพุ่งพรวด เชียงใหม่ อ.ฮอด อยู่ระดับสีแดงมีผลกระทบกับสุขภาพ (PM2.5 ที่ 93 มคก./ลบ.ม.) ในตัวเมือง ระดับสีส้ม ส่งผลกระทบกับคนในพื้นที่แล้ว ส่วนอันดับโลกเมืองมลพิษทางอากาศ กทม.อันดับที่ 5, เชียงใหม่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13 (ที่มา : https://www.iqair.com/th/thailand) ขณะที่ พบ 17 จังหวัดภาคเหนือ อยู่ใระดับสีส้มแล้ว