อันตรายถึงตาย! หากเข้ายุ่งเกี่ยว “ยาอี-ยาเลิฟ” ปัจจุบันถูกนำมาบรรจุในผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เก๋ไก๋น่ากิน ซองคอลลาเจน-กาแฟ-เครื่องดื่มเกลือแร่ ที่ลักลอบขายเกลื่อนในออนไลน์
กลุ่มวัยรุ่น และนักเที่ยว ต้องรู้เท่าทัน!! โดยเฉพาะสาวๆ ที่นิยมการท่องราตรี กับรูปแบบใหม่ ของ “ยาอี-ยาเลิฟ” ที่ถูกนำมาลักลอบบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ววางขายในช่องทาง สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น ซองคอลลาเจน ซองกาแฟ ซองเครื่องดื่มเกลือแร่ บางชิ้นเก๋ไก๋ ลองลิมลองสุดๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น และแพร่หลาย ยากต่อการตรวจสอบ และใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ง่ายในการเสพ และไม่ต้องหลบซ่อนอย่างในอดีต ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ หรือกระทั่งเสียตัว วันนี้ Toppic time มีข้อมูลมาบอกเล่า เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง
นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายให้ฟังว่า “ยาอี-ยาเลิฟ-เอ็คซ์ตาซี (Ecstasy)” เป็นยาเสพติดตัวเดียวกัน และเป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง การใช้เสพอาจอันตรายถึงตายได้
พิษร้ายทำลายทุกอย่าง
ยามีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน ด้านหนึ่งนูนหรือเรียบ หรือมีขีดแบ่งครึ่ง อีกด้านหนึ่งมีสัญลักษณ์บนเม็ดยาเป็นรูปต่างๆ เช่น ค้างคาว นก ดวงอาทิตย์ เป็นต้น
- “ยาอี” มีฤทธิ์หลอนประสาทและกระตุ้นประสาท เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายจะออกฤทธิ์ภายในเวลา 30 – 45 นาที และฤทธิ์ของยาจะอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทในระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง
- ผู้เสพจะรู้สึกร้อน เหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง การได้ยินเสียง และการมองเห็นแสงสีต่าง ๆ ผิดไปจากความเป็นจริงเคลิบเคลิ้ม รู้สึกตื่นตัวตลอดเวลาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
“ยาอี เมื่อเข้าไปจะทำลายระบบประสาท ทำให้เซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสารซีโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารสำคัญในการควบคุมอารมณ์ทำงานผิดปกติ โดยจะหลั่งสารนี้ออกมามากกว่าปกติทำให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารดังกล่าวจะลดน้อยลง ทำให้ผู้เสพเข้าสู่สภาวะอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ เกิดอาการซึมเศร้า และอาจกลายเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้า (Depression) มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ และยังทำให้การนอนหลับผิดปกติ เวลาการนอนลดลง หลับไม่สนิท อ่อนเพลียขาดสมาธิ ในการเรียนและทำงาน บางรายนิยมเสพพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาชนิดอื่นร่วมด้วย อาจทำให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้”
ปิดช่องทางแพร่กระจาย แจ้งเบาะแส
ช่วยกันสอดส่องและแจ้งเบาะแส หากคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยงและพบสิ่งต้องสงสัย ควรพูดคุยด้วยเหตุผลไม่ใช้ความรุนแรง บอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพรวมถึงอันตรายที่จะตามมา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th
“..อย่ามาเล่นกับไฟ ร้อน ๆ จะไม่ดี ฉันกลัวจะไม่ปลอดภัย..” จากพิษร้ายมหันตภัยดังกล่าว ขอให้ตระหนักอย่างแรง!!