“บิ๊กโจ๊ก” ปรอทแตก ร้องศาลตำรวจใช้ชื่อนาย ในการขอออกหมายจับ เผยเช่าบ้าน “เฮียแต๋ม” อยู่ จ่ายเดือนละ 50,000 บาท ขณะที่ นายกฯ สั่งตั้งกรรมการเร่งสอบ ภายใน 30 วัน ล่าสุดศาลให้ประกันตัวตำรวจอีก 6 นาย…
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 ที่ศาลอาญา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก เดินทางมายื่นคำร้อง ขอให้ศาลพิจารณาไต่สวน เรื่องการละเมิดอำนาจศาล กรณีการขอให้ศาลออกหมายค้นบ้านพักซึ่งเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) ว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล แม้ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของบ้าน จะเป็นคนอื่น แต่ก็เป็นญาติตัวเอง
บิ๊กโจ๊ก ยื่นคำร้อง ตร.ไม่ใช้ยศ ใส่เพียง ‘นาย’ ตอนขอศาลออกหมายจับ
“การขอให้ศาลออกหมายจับนั้น เป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพราะในการไปขอหมายจับ ไม่ได้ระบุยศตำรวจ ใส่เพียงคำนำหน้าชื่อเป็นนายทั้งหมด ทำให้ศาลไม่ทราบ ซึ่งที่ผ่านมา เวลาที่ตัวเองทำงาน หากต้องไปขอหมายจับตำรวจ ก็ต้องระบุยศไป เพราะศาลจะสั่งให้ออกหมายเรียกก่อน หากไม่มาค่อยให้ออกหมายจับ เพราะตำรวจถือว่ามีถิ่นที่อยู่ที่ชัดเจน ไม่หลบหนี เป็นข้าราชการ แต่ในกรณีนี้ ที่มีการปกปิดซ่อนเร้น จึงถือเป็นการส่อพิรุธ”
บิ๊กโจ๊ก เช่าบ้าน “เฮียแต๋ม” อยู่ จ่ายเดือนละ 50,000
ส่วนประเด็นที่ปรากฏชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้านทั้ง 5 หลัง คือ เฮียแต๋ม เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ จ.อุดรธานี และพบว่า มีการโอนเงินมาจ่ายค่าส่วนกลางบ้านปีละ 142,000 บาทนั้น บิ๊กโจ๊ก ชี้แจงว่า เฮียแต๋ม เป็นญาติสนิทของตน และเป็นเจ้าของบ้านทั้งหมด โดยเฮียแต๋มให้ตนเองเช่าบ้านอยู่ มีสัญญาเช่าชัดเจนในราคา 50,000 บาท อาศัยอยู่ 2 หลัง
ไม่มีเส้นทางการเงินโยงมาถึง
ประเด็นเรื่องเส้นทางการเงิน บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่า ไม่ได้มีเส้นทางการเงินตรงเข้ามาที่ตัวเอง ทั้งหมดเป็นเรื่องของลูกน้อง เป็นหน้าที่ของลูกน้องที่ต้องตอบว่า นำเงินไปทำอะไร ได้นำเงินไปเล่นพนัน หรือไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บอะไรหรือไม่ หรือจะไปใช้บัญชีม้า ไปมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับ “มินนี่” ถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ได้หมายความว่า พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว จะจับเชื่อมโยงมาที่ตนเองได้
ไม่รู้ ทนายความ – นักข่าว เอี่ยวเว็บพนัน
ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ระบุ จะมีการออกมาแฉ ว่ามีทนายความชื่อดังและนักข่าว เชื่อมโยงกับเครือข่ายพนันออนไลน์ด้วย บิ๊กโจ๊ก บอกว่า เป็นเรื่องของทนายและนักข่าว ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเอง เพราะอย่างที่บอก ไม่มีเส้นทางการเงินไหนโยงมาถึงตัว และไม่ได้มีความกังวลใจในการออกหมายเรียกตัวเองและครอบครัว เพราะสามารถชี้แจงได้หมด โดยเฉพาะแม่ที่อายุมากแล้ว ไม่รู้จักเรื่องการพนันออนไลน์อย่างแน่นอน
คุม 15 ผู้ต้องหา เอี่ยวเว็บพนันฝากขัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) กทม. พร้อมรถตู้ 3 คัน เพื่อคุมตัวผู้ต้องหา คดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ รวม 15 คน ประกอบด้วย นายตำรวจ 6 นาย พลเรือน 8 คน และทหาร 1 นาย ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขัง ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน เปิดบัญชีม้า และจัดให้มีการเล่นพนัน และคัดค้านการประกัน เพราะมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน กระทั่งเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ลูกน้อง บิ๊กโจ๊ก โดนข้อหาหนัก ฟอกเงิน
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกตั้งข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิตฐานฟอกเงิน และได้มีการทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน
ยกเว้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ รอง ผบก.สส.ภ.4 ที่ถูกตั้งข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน อีกข้อหาหนึ่ง
นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบ ค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก ขีดเส้น 30 วัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีการเข้าค้นบ้านพักของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเคหสถานอื่นหลายแห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ 2.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และ 3.พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการเเละเลขานุการ พร้อมสั่งรายงานผลการตรวจสอบภายใน 30 วัน แต่ในกรณีที่จำเป็น อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการรายงานความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะทุก 10 วัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 16.50 น. ว่า ศาลได้ให้ประกันตัว 6 ตำรวจ ลูกน้อง บิ๊กโจ๊ก แล้ว โดยใช้วงเงินประกันตัวคนละ 100,000 บาท พร้อมสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ.