อิสราเอลส่งร่างแรงงานไทย-ผู้เสียชีวิตไทยชุดแรกกลับประเทศไทย วันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) ยืนยันพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเรียบร้อย จากลายนิ้วมือ หรือ DNA ไม่ต้องตรวจสอบซ้ำ (ยกเว้นญาติร้องขอ) ลำเลียงกลับภูมิลำเนา กว่า 8,000 คนขอกลับ กลับแล้ว 1,424 คน
กระทรวงการต่างประเทศ เปิดรายละเอียด ‘อิสราเอล’ ส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับไทย และการให้ความช่วยเหลือ
– พรุ่งนี้ (20 ต.ค.) จะมีการส่งผู้เสียชีวิต 8 ศพ กลับไทย โดยสายการบินแอลอัล เที่ยวบิน LY 083 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.50 น.สถานทูตฯ แจ้งญาติ และออกใบมรณบัตรให้เรียบร้อยแล้ว
– เครื่องบินเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นจะลำเลียงศพไปบริเวณคลังสินค้า พื้นที่ส่วนใน ซึ่งจัดไว้ให้ดำเนินขั้นตอนทางเอกสาร และญาติมารอรับ เมื่อเสร็จแล้วรถจะลำเลียงศพออกมาเพื่อส่งกลับมาตุภูมิ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
– สถานทูตฯ แจ้งว่า ทุกศพได้รับการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์จากสถาบันนิติเวชอิสราเอลแบบ Full Forensic Check โดยการตรวจพิสูจน์ด้วยลายนิ้วมือ เนื่องจากอิสราเอลมีฐานข้อมูลลายนิ้วมือของทุกคนที่อยู่ที่อิสราเอล และหากสภาพศพไม่สามารถใช้ลายนิ้วมือ จะดำเนินการตรวจ DNA ทั้งนี้ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจที่ไทยอีก ยกเว้นญาติจะร้องขอ
เงินช่วยเหลือแรงงานไทยที่เสียชีวิตเบื้องต้น–กลับแล้ว 1.4 พันคน
– กระทรวงแรงงาน จะมอบเงินให้ 40,000 บาท จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทย สำหรับแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ ส่วนผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนฯ ขณะมีภาคเอกชนยื่นความจำนงให้เงินช่วยเหลือแล้ว
– ล่าสุดมีแรงงานไทยได้ลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย แล้ว 8,389 คน (ไม่ประสงค์กลับ 116 คน) ขณะนี้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 1,424 คน
– อิสราเอลยืนยัน แรงงานไทยที่ทำงานไม่เกิน 4 ปี สามารถกลับไปทำงานได้อีก และผู้ที่อยู่ที่อิสราเอลจะได้รับการขยายระยะเวลา Visa
สู้รบในอิสราเอล แรงงานไทยลั่นไม่ขอกลับไปทำงานอีก
การอพยพแรงงานไทยยังมีทุกวัน ดำเนินการต่อเนื่อง ล่าสุด แรงงานไทยรายหนึ่ง จ.ตาก บอกเล่าว่า ทำงานมากว่า 2 ปี ปีแรกที่เดินทางไปก็เจอกับสงครามเลย แต่ก็อดทนจากผ่านพ้น แต่ครั้งนี้หนักกว่ามาก บุกโจมตีภาคพื้นดินด้วย
“คงไม่ขอกลับไปทำงานอีก แต่หากมีประเทศอื่นๆ ที่เปิดแล้วไม่อันตราย ก็พร้อมที่จะไป พร้อมฝากถึงคนไทยในอิสราเอลว่า ขอให้สู้ๆ ทางภาครัฐเร่งช่วยเหลืออยู่”
ขณะที่สถานการณ์การสู้รบ ยังขยายวงกว้าง กระทรวงการต่างประเทศสรุปเบื้องต้น (ข้อมูล 19 ต.ค.)
– ยังคงมีการยิงจรวดเป็นระยะ บริเวณพื้นที่กาซา และประเทศเลบานอน
– นายกฯ สหราชอาณาจักร เดินทางเยือนอิสราเอล เพื่อติดตามเรื่องตัวประกัน และขอให้เปิดทางให้สามารถส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปที่กาซา
– อิสราเอลยืนยัน ว่าไม่ได้เป็นผู้โจมตีโรงพยาบาล Al Ahli Arab ในเขตฉนวนกาซา
