ศาลยกฟ้องข้อหาสมคบค้ายาฯ “เบนซ์ เรซซิ่ง” แต่ผิดข้อหาฟอกเงิน จำคุก 3 ปี 4 เดือน ปล่อยตัวเย็นนี้ หลังติดคุกมานานกว่า 4 ปี
วันที่ 24 ตุลาคม เวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” อายุ 36 ปี อดีตสามี “แพท ณปภา” นักแสดงและพิธีกรสาวชื่อดัง พร้อมด้วยนายสรรเสริญ หรือ เน็ต อายุ 41 ปี และ น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-3
ในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยบกับยาเสพติด ฯ ,ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3,4,6,10,14 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3,5,9,60
โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่าเมื่อต้นเดือน พฤศจิกายน 2559- 2 กุมภาพันธ์ 2560 จำเลยทั้งสาม กับนายณัฐพล หรือบอย จำเลยคดีค้ายาเสพติด ของศาลอาญา กับพวกที่หลบหนี โดยร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำในการเป็นผู้จัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียงยา หาลูกค้าและเป็นเครือข่ายการรับยาเสพติด
รวมทั้งจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องที่นายณัฐพล หรือบอย กับพวกเป็นผู้จัดหายาเสพติดและเป็นผู้ประสานงานในการขนถ่ายลำเลียง ซึ่งวันที่ 26 พ.ย.59 เจ้าพนักงานได้จับกุม พร้อมของกลางยาบ้า 140,000 เม็ด และยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาว น้ำหนัก 19 กก.เศษ โดยนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ได้โอนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด เข้าบัญชีนายอัครกิตติ์, นายสรรเสริญ และน.ส.อังสุพร รวม 53 ครั้ง เป็นเงิน 11,072,547 บาท ซึ่งนายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ไปซื้อรถลัมโบร์กินี และรถจักรยานยนต์ราคาแพงด้วย โดยเหตุเกิดที่แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม, แขวงจอมพล เขตจตุจักร, กทม. และที่อื่นๆเกี่ยวพันกัน
ทั้งนี้ในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธโดยตลอด ส่วนจำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพผิดฐานฟอกเงินเท่านั้น คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 ให้จำคุก นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบกันค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปรามยาเสพติดฯ
ส่วนจำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐาน ฐานร่วมกันสนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือ สมคบค้ายาเสพติด และฐานร่วมกันฟอกเงิน ให้จำคุกคนละ 8 ปี, ซึ่งให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกฐานฟอกเงินคนละ 4 ปี และฐานสมคบกันทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี ปรับคนละ 400,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 24 ปี ปรับคนละ 4 แสนบาท
จากนั้นจำเลยยื่นอุทธรณ์ อย่างไรก็ตามศาลอุทธรณ์พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษ นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือ หรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานฟอกเงินจำคุกรวม 36 ปี 8 เดือน ปรับ3,333,333.33 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-3 ปี เหลือจำคุก คนละ 22 ปี 6 เดือนปรับคนละ 4 แสนบาท
พวกจำเลยยื่นฎีกาเบิกตัวจำเลยจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งนายอัครกิตติ์ จำเลยที่1 ยื่นฎีกาเพียงคนเดียว โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่าแม้คดีนี้อัยการโจทก์จะมีรองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพิดและเจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าพนักงานปปง.เบิกความทำนองเดียวกันว่า นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 มีส่วนร่วมรู้เห็นและเป็นผู้สนับสนุนการค้ายาเสพติดของกลาง แต่อย่างไรก็ตามจำเลยคนอื่นในคดีนี้ไม่ได้เบิกความอ้างถึงว่านายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ร่วมกระผิดตามที่อัยการโจทก์ฟ้องในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ
“พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1ฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ฯ นั้น ศาลฎีกาไมาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังขึ้นพิพากษายกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีแพท ณปภา มีความผิดเฉพาะข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งศาลอุทธรณ์จำคุก 3 ปี 4 เดือน โดยนายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ติดคุกมาแล้ว 4 ปีเศษ ดังนั้นจะได้รับการปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางในช่วงเย็นวันนี้