Whoscall แอปพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก และป้องกันสแปม สำหรับสมาร์ทโฟน โดยเดินหน้าส่งแคมเปญ “จับมือเพื่อนรัก ตัดสายมิจร้าย SAVE FRIENDS FROM FRAUD” ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ร่วมขับเคลื่อนให้เป็นวาระแห่งชาติ ปลุกคนไทย 70 ล้านคน ให้ดูแลคนที่รักพ้นภัยจากมิจฉาชีพทางโทรศัพท์
คุณแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Gogolook จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มด้านการป้องกัน และต่อต้านการหลอกลวงในรูปแบบดิจิทัล รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เปิดตัวแคมเปญ “จับมือเพื่อนรัก ตัดสายมิจร้าย SAVE FRIENDS FROM FRAUD” ในประเทศไทย เนื่องด้วย การหลอกลวงทางโทรศัพท์ มีการแพร่หลายเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทาง Whoscall จึงมีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ในการต่อสู้กับกลโกงและการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และพันธมิตรที่มีศักยภาพด้านต่างๆ เพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะเป้าหมายที่สำคัญนี้ ในช่วงต้นปีทาง Whoscall ได้เปิดตัวฟีเจอร์ ID Security ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่าหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง ตกเป็นเหยื่อของเว็บมิจฉาชีพหรือไม่ ด้วยความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงทรัพยากรข้อมูลจำนวนมหาศาล และเทคโนโลยี AI อันล้ำสมัย ทาง Whoscall จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันคนไทยให้พ้นจากการถูกหลอกลวงทางดิจิทัล”
นอกจากนี้ คุณแมน วู ยังเปิดเผยว่า สำหรับปี 2566 คนไทยได้รับข้อความ SMS ที่เป็นข้อความสแปมและข้อความหลอกลวงเฉลี่ย 6 ใน 10 ครั้ง ของข้อความ SMS ทั้งหมดที่ได้รับ หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ติดอันดับการได้รับข้อความ SMS หลอกลวงสูงที่สุดในเอเชียอีกด้วย
โดยการหลอกลวงนั้นจะมีหลายรูปแบบ อาทิ การหลอกให้ล็อกอินเข้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันปลอม เช่น ส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดคือ 27% การหลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชันที่อันตราย 20% และการหลอกให้เข้าไปที่หน้าช้อปปิ้งออนไลน์ปลอม 8% เป็นต้น”
ทาง Whoscall ยังมีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถิติในปี 2566 คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมีถึงวันละ 217,047 ราย โดยมีคนไทยได้รับสายจากมิจฉาชีพถึง 20.8 ล้านครั้ง และถูกมิจฉาชีพหลอกลวงจาก SMS มากกว่า 58.3 ล้านข้อความ ซึ่งเป็นจำนวนยอดที่เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2565 ที่มียอดรวมของสายโทรศัพท์หลอกลวง เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 และข้อความSMS เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 รวมมูลค่าความเสียหายสะสมกว่า 53,875 ล้านบาท
คุณฐิตินันท์ สุทธินราพรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ บริษัท Gogolook กล่าวว่า “Whoscall มีความตั้งใจในการนำเสนอแคมเปญ “จับมือเพื่อนรัก ตัดสายมิจร้าย SAVE FRIENDS FROM FRAUD” เนื่องจากการหลอกลวงทางโทรศัพท์ได้ถูกยกระดับ เป็นวาระแห่งชาติ โครงการนี้ทำให้ทาง Whoscall ร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการต่อสู้กับปัญหาที่แพร่กระจายไปทั่วนี้ และด้วยวิวัฒนาการของกลโกงการหลอกลวงที่มาถึงยุค 5.0 เป็นยุคที่มิจฉาชีพหลอกด้วย AI อาทิ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI Deep Fake ในการปลอมตัวตน หรือเก็บและนำข้อมูลส่วนตัว มาหลอกให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยเราเริ่มพบเห็นการหลอกในรูปแบบโทรมาด้วยเสียงของคนที่คุ้นเคย และข้อมูลที่ระบุตัวตนถูกต้อง ซึ่งสามารถทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
คนไทยทุกคนจึงมีความจำเป็นต้องยืนหยัดร่วมกัน เพื่อต่อต้านภัยคุกคามที่แพร่กระจายนี้ ในขณะที่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สิน ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการร่วมมือเคียงข้างไปกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ทาง Whoscall เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของพนักงาน ลูกค้า ตลอดจนประชาชนในชุมชนที่เป็นวงกว้าง Whoscall จึงได้ร่วมมือกันเพื่อให้ความรู้ปกป้อง และรักษาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวไทยทุกคนในโลกดิจิทัลที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นในปี 2567 นี้ Whoscall จึงตั้งเป้าที่จะช่วยชาติลดความสูญเสียทางทรัพย์สินจำนวน 2.8 หมื่นล้านบาทจากมิจฉาชีพ และรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whoscall เพื่อให้เป็นแอปกันมิจฉาชีพที่ทุกคนต้องมี เพราะเสียงของทุกคนมีความหมายที่จะช่วยป้องกันให้คนที่เรารัก ปลอดภัยจากกลลวงต่างๆ ด้วยการแจ้งเบอร์มิจฉาชีพ ตัดสาย และไม่กดลิงก์จาก SMS ซึ่งเบื้องต้นได้รับ ความร่วมมือจากอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเจตนารมณ์เดียวกันเพื่อสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย
Whoscall ยังจัดกิจกรรมแจกโค้ด Whoscall พรีเมียม ฟรี จำนวน 3 ล้านโค้ด ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจรับโค้ด Whoscall พรีเมียม ได้ฟรี