คุม 4 วัยรุ่น คู่กรณีบาสมือมีด เข้ารับทราบข้อกล่าว!
ยังอยู่ในกระแสที่คนสนใจ กับคดีหนุ่มเลือดร้อนคู่กรณี บาสมือมีด แทงกลุ่มคู่อริที่มาหาเรื่องถึงหน้าบ้านเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดตำรวจคุมแก๊งวัยรุ่น 4 คนที่เหลือ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย…
วันที่ 16 ต.ค. 2564 ความคืบหน้ากรณีเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน มีอาวุธมีด ที่หน้าบ้านพักซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลทั้งหมด ประกอบด้วยนายสมเดช หรือต้น ดุลยพัฒน์ อายุ 25 ปี เสียชีวิตที่ รพ.บางปะกอก 8 นายธิติวุฒิ หรือแซม กลิ่นโพธิ์ อายุ 19 ปี เสียชีวิตที่ รพ.เกษมราษฎร์บางแค และนายพันกร อึ่งโต อายุ 20 ปี ถูกนำส่ง รพ.ราชพิพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บ แล้วจับกุมนายณัฐวุฒิ หรือบาส พึ่งฤกษ์ดี อายุ 21 ปี นั้น
ล่าสุดที่ สน.เพชรเกษม พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและคดี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาที่ สน.เพชรเกษม เพื่อตรวจสอบแนวทางการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม และพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ทำการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ หรือบาส ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น จะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกรณีที่ถูกรุมทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการคดีดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งมีคลิปภาพวงจรปิดปรากฏชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุเป็นใครบ้าง ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อทำการสอบปากคำกรณีดังกล่าว พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พ.ต.อ.วิสิษฐ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ตั้งแต่ในวันเกิดเหตุทางผู้บังคับบัญชา โดย พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้เดินทางมาทำการสอบสวนด้วยตัวเอง โดยบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า คดีนี้เป็นคดีของความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่าย เกิดความสูญเสียขึ้น เรามีหน้าที่เร่งรวบรวมทำสำนวนไป อาจจะไม่ได้ชี้แจงในบางประเด็น เพื่อไม่ต้องการให้การสื่อออกไปแล้วไปเกิดความขัดแย้ง ส่วนกรณีแต่ละฝ่ายไปออกรายการต่างๆ ก็เป็นบทบาทอีกบทบาทหนึ่ง ส่วนกรณีที่เกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย สามารถติดต่อแจ้งเข้ามาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย เท่าที่ผ่านมายังไม่มี โดยจะดูแลให้เกิดความเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ได้มีการแบ่งคดีดังกล่าวออกเป็น 2 คดี คือกรณีที่ฝั่งของนายณัฐวุฒิ ใช้อาวุธมีดทำร้ายคู่กรณีเสียชีวิต ส่วนอีกกรณีคือ กรณีที่นายณัฐวุฒิ ถูกคู่กรณีทำร้าย โดยดำเนินกับกลุ่มคู่กรณี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น และข้อหาร่วมกันบุกรุก เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะเจ้าพนักงาน สามารถแจ้งข้อกล่าวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนความผิดอื่นที่เป็นความผิดส่วนบุคคลนั้น ทางนายณัฐวุฒิ ต้องเป็นผู้มาแจ้งความกรณีดังกล่าวในฐานะผู้เสียหาย เบื้องต้นยังไม่ได้เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.
