ระทึก!! คนร้ายคลั่งชักปืน จี้รถพ่วง บรรทุกน้ำเค็ม ตำรวจทางหลวงไล่ล่าร่วม 54 กิโลเมตร ก่อนจนมุมที่แยกตากสิน…
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 18 มกราคม ตำรวจทางหลวง รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จากถนนทางหลวงหมายเลข 3423 ใกล้เคียงวัดยกกระบัตร ตำบลยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ขับหลบหนีออกถนนพระรามสอง มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร จึงแจ้งสกัดจับ และไล่ล่าคนร้ายตั้งแต่ถนนพระราม 2 ช่วงกิโลเมตรที่ 53 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ มีการแจ้งวิทยุประสานกับตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 เข้าสกัดจับรถคันดังกล่าว โดยคนร้ายขับรถจากถนนพระรามสอง มาถึงแยกบางประแก้ว เลี้ยวขวามุ่งหน้าพระประแดง ส่วนพ่วงท้ายเกิดขาด ขวางถนน แต่คนร้ายยังขับรถมุ่งหน้าต่อ โดยกลับรถขึ้นสะพานข้ามแยกบางประแก้ว มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ ในลักษณะย้อนศร จนหวิดเกือบอุบัติเหตุกับรถคันอื่นที่สวนทาง ก่อนจะไปสิ้นฤทธิ์โดยพุ่งชนแนวรั้วใต้สะพานข้ามแยกตากสิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ โดยคนร้ายยังมีอาการคุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง จากการตรวจค้นไม่พบเอกสารระบุตัวตนแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายสุชาติ สงวนสัตย์ อายุ 55 ปี คนขับรถบรรทุก ให้การว่า ขณะขับรถมาจาก จ.นครปฐม เพื่อไปรับน้ำเค็มแถวย่านวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ระหว่างขับมาถึงช่วงวัดยกกระบัตร ซึ่งเป็นถนนสองเลนสวนกัน ลักษณะทางโค้ง และขึ้นสะพาน ทำให้ต้องชะลอความเร็ว ก็เห็นคนร้ายยืนขวางถนน และชักปืนขึ้นมาจ่อใส่หน้ารถ บังคับให้หยุด จากนั้นจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อข่มขู่จึงหักหลบ
แต่คนร้ายยังปีนขึ้นมาจากบันไดส่วนท้าย เกาะรถขึ้นมา และพยายามใช้เท้าถีบกระจกหน้ารถไปตลอดทาง ด้วยกลัวว่าจะถูกยิง เลยพยายามขับรถไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร โดยมีคนร้ายเกาะอยู่บนตัวรถ
จนกระทั่งถึงป้อมตำรวจ ทางหลวงพระราม 2 (ทางหลวงนาโคก)จ.สมุทรสาคร จึงรีบจอดและวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ จังหวะนั้นคนร้ายจึงชิงขับรถบรรทุกหลบหนี ตนจึงขึ้นรถมากับตำรวจไล่ติดตามคนร้าย กระทั่งสามารถสกัดจับตัวไว้ได้
เบื้องต้นพบว่ามีรถเก๋งเสียหาย 1 คัน และ รถพ่วง 18 ล้อ เสียหายอีก 1 คัน รวมระยะทางหลบหนี 54 กิโลเมตร
เบื้องต้นจากการสอบสวน คนร้ายยังอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง ให้การว่า เสพยาบ้ามา 5 เม็ด พร้อมดื่มสุรามาก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังอ้างว่าใช้อาวุธปืนยิงคนตายมาแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นได้โยนทิ้งแม่น้ำท่าจีนไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนร้ายไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ต่อไป.