ไทย-กัมพูชา ผนึกกำลังบุกจับขบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา โทรลวงอ้างเป็นตำรวจ พนักงานขนส่ง หลอกโอนเงินโพยตุ๋นเหยื่อเพียบ…
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ PCT แถลงจับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ใจกลางเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ได้ผู้ต้องหา 28 คน พร้อมช่วยเหลือเหยื่อคนไทย 5 คน อยู่ระหว่างคัดแยกอีก 28 คน หลังสืบทราบว่า หลอกเป็นตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และพนักงาน DHL Fed EX มีผู้เสียหายจำนวนมาก สอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาเบื้องต้นพบว่า มาทำงานที่กัมพูชา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ได้เงินเดือน เดือนละประมาณ 30,000 บาท และได้ค่าคอมมิสชั่น อีกร้อยละ 3.5 คาดสร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
ปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจไทย ร่วมกับตำรวจกัมพูชา นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ทำงานของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ในจังหวัดพระสีหนุ :
- จุดแรก เป็นโรงงานร้าง ไม่มีเลขที่ สามารถจับหัวหน้าใหญ่ สัญชาติจีน (ไต้หวัน) 2 คน และผู้ต้องหารวม 28 คน ลักษณะการกระทำผิด จะอ้างมีพัสดุจากบริษัทขนส่งเอกชน ถูกด่านศุลกากรอายัดไว้ เนื่องจากมีสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้น จะมีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ติดต่อไป เพื่อตรวจสอบบัญชีหรือตรวจสอบการเงินหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยใช้รูปโปรไฟล์ในแอปพลิเคชันเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุด ผบ.ตร.แอบอ้าง สร้างความน่าเชื่อถือ เบื้องต้นความผิดในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่-ซ่องโจร, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงิน
- อีกจุดเป็นอาคารในเมืองพระสีหนุ เปิดเป็นบ่อนคาสิโนบังหน้า พบใช้วิธีชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล และหลอกร่วมลงทุนขายสินค้าออนไลน์ โดยเสนอให้ผลตอบแทนสูง ตรวจค้นพบคนไทย 33 คน ขณะทำงานคุยกับลูกค้า (จะต้องคัดแยกผู้ใดเป็นเหยื่อ หรือผู้ต้องหา) สอบถามมี 5 คน ที่สมัครใจกลับประเทศไทย ซึ่งได้ส่งตัวไปยังสถานกงสุลไทยในกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศกัมพูชา ก่อนส่งกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทยต่อไป
ข้อมูลจากศูนย์รับแจ้งเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1 – 24 มีนาคม 2565 มีผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์ 4,649 คน และมากที่สุด คือ คดีหลอกลวงด้านการเงิน จำนวน 3,737 เรื่อง, ส่วนที่เหลือแจ้งเกี่ยวกับหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 724 เรื่อง และข่าวปลอม 87 เรื่อง โดยยังมีการอายัดเงินในบัญชีได้แล้วกว่า 47 ล้านบาท จะทยอยคืนให้ผู้เสียหายต่อไป.
