พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แถลงเปิด 5 พรรคจัดตั้งรัฐบาล!
แถลงข่าวพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศกร้าว ผม…ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พร้อมเปิดรายชื่อ 5 พรรคจัดตั้งรัฐบาล ไร้เงาพรรคภูมิใจไทย ลุยพื้นที่ขอบคุณคน กทม.และทั่วประเทศ ชัดเจน เร่งทำงานอย่างรอบคอบเพื่อประชาชน…
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 พ.ค. 2566 พรรคก้าวไกล จัดการแถลงข่าวหลัง กกต. แถลงข่าวผลการเลือกตั้ง 2566 อย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า พรรคก้าวไกล มีคะแนนเสียงสูงสุด 151 ที่นั่ง โดยนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการว่า
“ผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย ขอใช้โอกาสนี้สื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนผ่านสื่อ หลังจากที่ประชาชนลงคะแนนให้เป็นพรรคที่ 1 โดยพรรคก้าวไกล พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป นี่คือการน้อมรับฉันทามติจากประชาชน พลิกขั้วเปลี่ยนข้างจากฝ่ายค้านเดิม ในการจัดตั้งรัฐบาล และผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน พร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และความคิดเห็นที่แตกต่างจะทำให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้นในอนาคต และพร้อมที่เคารพและให้เกียรติต่อยอดจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เราพร้อมจะคืนศรัทธาให้กับระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา สร้างความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพให้กับระบบการเมืองไทยและผู้แทนราษฎรทุกคน”
ทั้งนี้ ผมได้มีโอกาสโทรศัพท์ติดต่อไปหาแกนนำ 5 พรรคการเมืองเพื่อ จัดตั้งรัฐบาล โดยมีทั้งติดต่อไปและติดต่อมา โดยได้โทรหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้แสดงความยินดีกับแพทองธาร ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางหาเสียง แม้จะมีบทบาทความเป็นแม่ด้วย ซึ่งเธอก็ทำได้อย่างเต็มที่ ไร้ที่ติ และได้เชิญชวนในการจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเสรีรวมไทย รวม 308 เสียง และกำลังติดต่อ พรรคเป็นธรรม อีก 1 พรรค รวมเป็น 309 เสียง ซึ่งคิดว่าเพียงพอแล้ว ในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และชัดเจนว่าเป็นการปิดประตูการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้ว
ส่วนการทำงานนั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า อันดับแรก…จะเป็นการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล จะนำโรดแม็ปที่สัญญาไว้กับประชาชน ไปจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ พัฒนาเศรษฐกิจปากท้อง ลดความเหลื่อมล้ำไปในทีเดียวกัน พร้อมตั้งทีมงานในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีคณะทำงาน ที่จะมาทำงานอย่างมีรูปธรรม เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจเป็นแบบมีประสิทธิภาพ
จากนี้จะเดินสายพบประชาชน ประชาสังคม พี่น้องข้าราชการ ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วน โดยพร้อมจะเดินหน้าทำความเข้าใจ ในนโยบายพรรคก้าวไกลกับคนเห็นต่าง เพื่อให้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นฉันทามติ ที่มาจากพี่น้องประชาชน และทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้ เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม บ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และตอนเย็นจะเดินทางไปขอบคุณพี่น้องประชาชนในกรุงเทพ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะเดินทางไปขอบคุณประชาชนในทั่วทุกภูมิภาค โดยจะรีบเร่งดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสุญญากาศทางการเมือง โดยขอให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนมั่นใจว่า เราจะทำงานเพื่อประชาชนอย่างรวดเร็วและละเอียดรอบคอบ.
