เปิดไทม์ไลน์การประชุมรัฐสภา โหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เริ่มแล้ว “หมอชลน่าน” เสนอ “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีใครเสนอชื่ออื่น…
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) มีระเบียบวาระการประชุม คือ วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ โหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 749 คน และสมาชิกวุฒิสภา 170 คน
– 09.30 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เริ่มเปิดการประชุม โดยได้อธิบายข้อกำหนดต่างๆ และระเบียบวาระ การแสดงตน และการรับรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
– 10.00 น. หมอชลน่าน ศรีแก้ว ขอเสนอชื่อเป็นคนแรก โดยเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
– โดยได้มีการกดรับรอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ ส.ส. ยังไม่ได้เข้ามาแสดงตน ณ ที่นั่งประจำจำนวนมาก ประธานจึงสั่งให้มีการล้างข้อมูลการรับรองใหม่ เพื่อให้ ส.ส.เพิ่งเดินเข้ามาแสดงตนก่อน และกดรับรองใหม่พร้อมกัน
– 10.10 น. นับจำนวน ส.ส. ที่รับรอง นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี มีจำนวน 302 เสียง ซึ่งรับรองครบ โดยไม่มีใครเสนอชื่อคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
– 10.15 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้อ่านแถลงการณ์พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า หากพรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นผ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และคัดค้านการแก้ไขประมวลอาญา มาตรา 112 เต็มที่
– 10.39 น. นายวันมูหะมัดนอร์ ประกาศขอลดเสียงรับรอง นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี จาก 302 เสียง เหลือเพียง 298 เสียง เนื่องจากมี ส.ว. กดรับรองไปด้วย 4 เสียง
– 10.40 น. นายประพันธ์ คูนมี สมาชิกวุฒิสภา ขอขัดค้านการเสนอชื่อบุคคล ที่มีลักษณะต้องห้าม ที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และ 160 และขาดคุณสมบัติ เนื่องจาก กกต.ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จึงถือว่าไม่อาจเสนอชื่อ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีได้
– 11.00 น. นายพิธา ขอให้สิทธิ์พาดพิง ชี้แจงเรื่องที่กำลังพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และยืนยันว่า ผมยังมีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบและครบถ้วนด้วยความชอบธรรม เพราะผมยังไม่ทราบเรื่องใดๆ และก็ยังไม่มีโอกาสในการชี้แจงเรื่องดังกล่าวเลย
– 11.08 น. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ย้ำว่า นายพิธา สมควรได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะได้รับเสียงสนับสนุนมาจากประชาชนแล้ว
– 11.22 น. นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า ทำไมนายพิธา ถึงไม่ดำเนินการเรื่องปมหุ้นก่อนมาสู่การเลือกตั้ง เพราะสุดท้ายก็โอนออกไปได้อยู่ดี และเห็นว่าเรื่องการแก้มาตรา 112 ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม และไม่เกิดประโยชน์ใดๆ พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงไม่ขอโหวตสนับสนุน นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
– 11.32 น. นายอดิศร เพียงเกษ จากพรรคเพื่อไทย อภิปรายยืนยันว่า นายพิธา สมควรได้รับการเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข และพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นส้มตำที่เผ็ดจี๊ดจ๊าด และน่าภูมิใจถ้าจะได้นายกรัฐมนตรีที่ก้าวไกลไประดับโลก ความศรัทธาจะเกิดขึ้นหรือไม่อยู่ที่การกระทำ
– 11.45 น. นายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว. เชื่อว่า ส่วนใหญ่ติดใจประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ทำให้มีผลการตัดสินใจ
– 12.12 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ แสดงเจตจำนงค์ในการเสนอ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยสนับสนุนเสียงข้างมาก
– 12.28 น. นายชัยชนะ เดชเดโช พรรคประชาธิปัตย์ ยังยึดหลักการไม่สนับสนุนพรรคการเมือง พรรคการเมืองที่จะแก้ไขมาตรา 112
– 12.36 น. นายชัยธวัช เลขาธิการพรรคก้าวไกล ขอชี้แจงเนื่องจากหลายพรรค พาดพิงพรรคก้าวไกล
– 12.38 น. ศาสตราจารย์พรเพชร ประธานที่ประชุม ไม่อนุญาตให้เลขาธิการพรรคก้าวไกลชี้แจง โดยให้นายพิธาชี้แจงเอง
– 12.39 น. นายรังสิมันต์ โรม พรรคก้าวไกล ขอให้พรรคก้าวไกลได้อภิปรายหลังโดนหลายท่านพาดพิง
– 12.40 น. นายพิธา ชี้แจงว่า วันนี้มาอภิปรายเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เรื่องกฎหมายสามารถมาพูดกันได้ด้วยดีในอนาคต ทั้งเรื่องการต่างประเทศ ยาเสพติด น้ำมันเถื่อน
– 12.47 น. นายชัยธวัช ลุกขึ้นอภิปรายหลังถูกพาดพิง โดยระบุว่า พรรคก้าวไกล ไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เป็นอะไรใหม่เลย แต่ถูกตีความมากมายจนเกินไป
– 13.05 น. นายปรีดา บุญเพลิง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน อยากให้สมาชิกที่ประชุม ตกลงกันเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีให้ได้ และขอถามพรรคก้าวไกล จะดำเนินการแก้กฎหมาย มาตรา 112 หรือไม่
– 13.10 น. นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน พรรคใหม่ ไม่สนับสนุนนโยบายอันอ่อนไหวต่อสังคม แต่เข้าใจดีถึงการแก้กฎหมาย และถามว่า พรรคก้าวไกลจะแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 หรือไม่ เปลี่ยนวันชาติหรือไม่ ถ้าพรรคก้าวไกลตอบไม่ชัดเจน ขออนุญาตใช้สิทธิไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
– 13.15 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ พรรคไทยสร้างไทย สนับสนุน นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
– 13.22 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า วันนี้มาประชุมเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เนื้อหากลับเป็นเรื่องของมาตรา 112 จึงยกข้อกฎหมายให้ฟัง พร้อมเห็นว่า กฎหมายสามารถแก้ไขได้
– 13.28 น. พรรคท้องที่ไทย สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ที่ไม่โกงกิน ทำคุณประโยชน์กับประเทศ
– 13.30 น. นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ พรรคพลังสังคมใหม่ ระบุว่า ใน MOU ของ 8 พรรคร่วม ไม่มีรายละเอียดในการแก้ไขมาตรา 112 ถ้าจะแก้กันจริงก็ยังต้องมาดูรายละเอียดกันอีก จึงขอสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
– 13.33 น. นายกัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม ระบุว่า อยากขอให้การประชุมนี้ต้องไปข้างหน้า เพราะปัญหานี้รอไม่ได้แล้ว ขอสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
– 13.44 น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า นายพิธา ไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และบริหารประเทศ โดยนายเสีได้กล่าวในหลายประเด็นทั้งเรื่องการปลุกปั่นเยาวชน การใช้ตำแหน่งไปประกันตัวผู้กระทำผิด การมีคนมากราบนายพิธา รวมถึงคลิปเด็กหลังนำเด็กขึ้นเวทีด้วย
– ต่อมาได้มีการโต้ตอบจากนายพิธา อธิบายเรื่องต่างๆ ที่นายเสรีกล่าว ทั้งเรื่องการกราบนายพิธา จากการบนบานไว้ของคนกราบ ซึ่งนายพิธาได้กราบคืน และจากนั้นจึงได้มีการโต้ตอบจากนายเสรีไปมา
– 14.15 น. นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ได้อภิปรายถึงหลักการ ข้อกฎหมายต่างๆ พร้อมระบุว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ และไม่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
– 15.30 น. นายพิธา ได้อภิปรายสรุป โดยระบุว่า วันนี้การได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นอะไรที่สุดในชีวิตแล้ว การเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ได้พูดถึงนโยบาย วิสัยทัศน์ ตลอดจนแนวคิดที่จะนำพาประเทศชาติ ไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้น
– 15.45 น. นายประพันธ์ คูนมี ส.ว. อภิปรายซ้ำว่า นายพิธาขาดคุณสมบัติ และถามว่า หากวันนี้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรุ่งนี้อาจมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้
– 15.49 น. นายพิธา ได้ใช้สิทธิพาดพิง โดยชี้แจงยืนยันว่า มีคุณสมบัติครบ
– 15.52 น. นายวันมูหะมัดนอร์ สรุปชื่นชมการประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ ว่าเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้ และอธิบายขั้นตอนการยืนยันตัวตน และออกเสียงรับรองนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้พูดแค่ว่า เห็นด้วย , ไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง.