‘แพทองธาร’ ยืนยัน “ทักษิณ” มีอาการอ่อนเพลียและเครียด ห่วงโรคหัวใจ ยืนยันพ่ออยู่ รพ.ตำรวจ ไม่ได้ขอย้ายไป รพ.เอกชน ยื่นขอ ‘อภัยโทษ’ ให้เป็นดุลยพินิจของพ่อ เปิดวิธีขออภัยโทษ ต้องยื่นข้อมูลความดี-อาการเจ็บป่วย…
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เผยถึงอาการป่วยของนาย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า มีอาการอ่อนเพลียและมีความเครียด สังเกตได้ตั้งแต่วันที่เดินทางกลับประเทศไทย รับทราบพร้อมกับสื่อว่านายทักษิณ ได้ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
“ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ป่วยเป็นโควิด-19 รักษาตัวอยู่ใน รพ. 1 เดือน และอยู่ห้องไอซียู 9 วัน น้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม และทำให้ปอดได้รับผลกระทบ ความเครียดมาจากการเปลี่ยนแปลงสถานที่ พ่อไม่ได้เดินทางกลับไทยมานานกว่า 17 ปี ขณะนี้ทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด ครอบครัวได้ส่งประวัติการรักษาทั้งหมดให้กับ รพ.ไปแล้ว ตนเองมีความเป็นห่วงเรื่องหัวใจ”
น.ส.แพทองธาร ยืนยัน นายทักษิณยังคงรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ไม่ได้ขอย้ายไป รพ.เอกชน เพราะ รพ.ตำรวจก็มีแพทย์เก่ง ๆ และระบุ ไม่รู้สึกเสียใจ กรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ เพราะตนเป็นห่วงนายทักษิณ และจากการที่ได้เข้าเยี่ยมพบว่านายทักษิณมีอาการเหนื่อยและเพลียอยู่บ้าง แต่ก็สามารถพูดคุยได้ ห้องที่รักษาตัวเป็นห้องปกติ มีการซ่อมเครื่องปรับอากาศแล้ว
สำหรับการขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นดุลยพินิจของนายทักษิณเอง รวมถึงเวลาในการร่างจดหมายและเรื่องกระบวนการขอพระราชทานอภัย
วิธี ‘ทักษิณ’ ขอ ‘อภัยโทษ’ ยื่นข้อมูลความดี-อาการเจ็บป่วย
ทั้งนี้ การยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษกับกรมราชทัณฑ์ ปกติแล้วผู้ต้องขัง จะต้องนำเอกสารมายื่นประกอบการพิจารณา เช่น คำพิพากษา ข้อมูลการประกอบคุณงามความดี ข้อมูลอาการเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการรักษา และรายละเอียดส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง โดยทางเรือนจำจะยื่นเรื่องให้กรมราชทัณฑ์ และส่งเรื่องต่อให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาตามขั้นตอน หากยื่นฎีกาแล้วไม่ผ่าน จะมีสิทธิยื่นเรื่องได้อีกครั้งในอีก 2 ปีข้างหน้าตามกฎหมาย