‘บิ๊กตู่’ เข้าทำเนียบทำงานวันสุดท้าย ร่ำลาข้าราชการ-แฟนคลับ-ผู้สื่อข่าว ขอเป็นประชาชนเต็มขั้น 9 ปีประทับใจทุกบทบาทหน้าที่ ทำโครงสร้างพื้นฐาน-สาธารณสุข สำเร็จ ‘บิ๊กป้อม’ ลาออก สส.-ปิดป่ารอยต่อ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล วันสุดท้าย เวลา 09.09 น. เปลี่ยนจากรถประจำตำแหน่ง เป็นรถยนต์ส่วนตัว พร้อมสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล
“ตนอธิษฐานให้บ้านเมือง สงบร่มเย็น มีความสุขนะจ๊ะ ช่วยๆ กัน”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะยังคงปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลใหม่ได้เข้ามาเตรียมสถานที่ปฏิบัติหน้าที่ยังทำเนียบรัฐบาล
ต่อมา 11.30 น. พลเอกประยุทธ์ จะลงมาร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนเพื่ออำลา บริเวณด้านหน้ารังนกกระจอก มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมวง
รับสายดาร์ก ขี้โมโห เหตุเป็นผู้บังคับบัญชาทหาร
พลเอกประยุทธ์ บอกว่า จากนี้อยากอยู่กับครอบครัว ชีวิตหายไป 9 ปี ขณะนี้ ก็สงบเรียบร้อยในระดับที่น่าพอใจ หากช่วยกันรักษาก็ไปได้ เราต้องทำให้ต่อเนื่อง วันนี้ไม่ขอวิจารณ์ พร้อมยอมรับว่า ตนเองสายดาร์ก หรือขี้โมโห ก็เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะคิดเร็ว ทำเร็ว บางทีอาจไม่เหมาะสม แต่ให้ดูผลงานที่ออกมา เพราะเป็นทหารมาก่อน
“ไม่เหงา เป็นคนช่างคิด ช่างอ่าน นิสัยนี้เลิกไม่ได้ แต่ก็ดูสถานการณ์ความเป็นไป ก็เหมือนประชาชนคนหนึ่ง ต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้เหมาะสม แต่ก่อนอาจจะดุไปบ้างเพราะเป็นนายกฯ ซึ่งการบริหารราชการ ต้องระมัดระวัง ในการใช้อำนาจ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย นี่คือวิธีการทำงาน มีกระบวนการยุติธรรม มีอำนาจตุลาการ นิติบัญญัติ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ ต้องเคารพตรงนี้”
เปิดอารมณ์สุนทรี ‘กวี’ ในใจ
ตนชอบทุกเพลงที่แต่งมา เพราะมีความหมายสำหรับ แม้ไม่ใช่กวี แต่ทำได้ก็เลยทำ ภาษาไทยก็ได้ดี เพราะแม่เป็นครู เวลาประชุมทหาร มีกลอน มีกวีบ้าง ปลุกใจน้อง ๆ ทหารเด็ก
เพลงที่ชอบที่สุดคือ ‘เพลงสะพาน’ เพราะได้แรงบันดาลใจมาจาก เพลงการข้ามสายน้ำที่เกรี้ยวกราด (Brudge overTrobleled water) พร้อมฮัมตามเพลง
ส่วน ‘เพลงเราจะทำตามสัญญา’ ในตอนนั้น ก็คิดอย่างนั้นจริง ไม่ได้คิดจะมาถึงตอนนี้ ถ้าสถานการณ์เรียบร้อยก็ไปนานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้ ก่อนย้ำว่า กรณีที่บอกว่า ตั้งรัฐบาลปรองดองนั้น มองว่า ไม่ใช่รัฐบาลปรองดอง ต้องปรองดองกันเอง ใครจะไปสั่งให้ปรองดองกันได้ โดยเชื่อว่า ทุกอย่างจะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
อำนาจต้องมากับความรับผิดชอบ
ทุกคนอยากมีอำนาจ แต่อำนาจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี นี่คือ หลักการใช้อำนาจ ผมพยายามระวังมาตลอด 9 ปี ร่วมถึงในคณะรัฐมนตรี บ้านเมืองสำคัญกว่าอย่างอื่น
พร้อมฝากถึงชาวเน็ตว่า ฝากความรัก ความคิดถึง ไม่โกรธ เคืองใคร ไม่ว่าจะชม จะรัก จะชอบ หรือไม่ชอบ แต่คนในโซเชียลจะต้องมีภูมิคุ้มกัน ต้องมีเหตุผล ยอมรับว่า อ่านโซเชียลแล้วจี๊ดทุกเรื่อง แต่ไม่เป็นไร เป็นการแสดงความคิดเห็น จากนี้คงไม่ดู เพราะที่ผ่านมาทีมงานเป็นคนทำให้ ตนไม่เคยเล่นโชเชียล
โครงสร้างพื้นที่ฐาน-งานสาธารณสุข คือคำตอบ 9 ปี
“กับเรือลำนี้ 9 ปีที่ผ่านมา ความประทับใจ คือ ความรักความสามัคคีที่ทำอย่างไรเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนและเพื่อสถาบันต่าง ๆ รวมถึง การประชุม ครม. ทุกสัปดาห์ ที่ทุกคนเห็นชอบร่วมกัน ในการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติต่างๆ ที่วางไว้ ไม่ได้มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ 9 ปีที่ผ่านมา งานคืบหน้าไปได้เกินครึ่ง บางโครงการถึง 80 – 90% อย่างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุข”
จากนั้น พลเอกประยุทธ์ได้เชิญชวนให้ทุกคนร่วมร้องเพลง พระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด คำสัญญา-อินโดจีน เพลงด้วยรักและผูกพัน-เบิร์ด ธงชัย และเพลงศรัทธา-หินเหล็กไฟ ก่อนจะลงจากตึกไทยคู่ฟ้าไปถ่ายรูปกับแฟนคลับ ก่อนขึ้นรถยนต์ส่วนตัว หมายเลข 1881 กทม. ออกจากทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ น้ำตาคลอ ระหว่างขึ้นรถด้วย
ปิดตำนาน ‘ป่ารอยต่อ’
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังเปิดเผยเมื่อช่วงเช้าว่า จะลาออกจาก ส.ส.และขอทำหน้าที่เดียวคือ หัวหน้าพรรค พร้อมระบุว่า “บ้านป่าปิดแล้ว” พร้อมยิ้มและเดินไป โดยให้เหตุผลว่า จะทำแต่มูลนิธิอย่างเดียว พร้อมอวยพรสื่อมวลชน ขอให้โชคดีทุกคน
สำหรับมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก หรือ ‘บ้านป่ารอยต่อ’ เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองของ พลเอกประวิตร เป็นศูนย์กลางของเหล่าบรรดาเครือข่ายทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ จะเข้าไปคารวะแสดงความเคารพและนัดหมายเจรจากลุ่มการเมืองมาตลอด ต่อเนื่องยาวนาน 9 ปีที่ผ่านมา