เชื่อว่ากลั่นแกล้ง!! 'สุชาติ' ฟ้องรวด 3 บิ๊ก 'ดีเอสไอ' ปมหักหัวคิวแรงงานไปฟินแลนด์
“สุชาติ ชมกลิ่น” ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ดำเนินคดี 3 ข้าราชการ ดีเอสไอ กล่าวหาหักค่าหัวคิวแรงงานไทย ไปเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ ช่วงดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน เชื่อเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ล่าสุดศาลนัดไต่สวน 6 ก.พ.นี้…
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ส.ส.14 คน พร้อมผู้ถูกกล่าวหา เดินทางมายื่นฟ้องดำเนินคดีกับข้าราชการ ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หลังมีมติกล่าวหา อดีตรัฐมนตรี 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิดมาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการค่าหักหัวคิวแรงงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท
โดยนายสุชาติ ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีข้าราชการ ดีเอสไอ 3 คน คือ อธิบดีดีเอสไอคนก่อน ที่เซ็นเอกสารในขณะนั้น, รักษาการอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบัน และ ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ ในข้อหามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 200 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้งให้รับโทษทางคดีอาญา รวมถึงอีก 7-8 มาตราที่เกี่ยวข้อง
นายสุชาติ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยมองว่า การที่ ดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าว ส่งผลให้ตนเองและครอบครัวได้รับความเสียหาย แม้ว่าจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ได้พูดว่ารัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นตน
และยังบอกอีกว่า การที่ดีเอสไอออกมาแถลงนั้น ถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบ กลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีตัวเอง ที่มีการยื่นสำนวนให้ ป.ป.ช.ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังกลับมาแถลงข่าว ทั้งที่เข้าสู่กระบวนการ ป.ป.ช.ไปแล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ ยังไม่เคยมีการเรียกตนเอง และบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถาม หากมีข้อกล่าวหากับข้าราชการระดับสูง หรืออดีตรัฐมนตรีว่าการ ต้องสอบถามก่อน เพราะหากกล่าวหาไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ ใครจะมาชดใช้ในสิ่งที่เสียหาย
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2563 ได้มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับสินบน ในลักษณะที่ถูกกล่าวหา และได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นบริษัทเอกชนกับเอกชน ซึ่งมองว่า ถ้าข้าราชการทำ ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบทำไม
ทั้งนี้ นายสุชาติ ได้เน้นย้ำว่า หลักฐานที่ตนมี ขอให้ไปเจอกันในสภาฯ ตนจะอภิปรายเองเรื่องในกระบวนการยุติธรรม พร้อมท้าให้ดูหลักฐานที่มีจะชัดเจนขนาดไหน พร้อมกันนี้ยังได้ตัดพ้อว่า ทำไมไม่ดูผลงาน สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แก้ปัญหาให้ประชาชนที่ไปทำงานต่างประเทศมากมายขนาดไหน ดูนายจ้างทั้งหมดไม่ให้โกง ไม่ให้เอาเปรียบลูกจ้าง ซึ่งมีหลักฐานอยู่ที่ธนาคารทั้งหมด และนี่คือสิ่งหนึ่งที่ต้องดูว่า ตนทำงานเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง ซึ่งตนภาคภูมิใจมาก เพราะไม่เคยเอาอำนาจหน้าที่ไปกลั่นแกล้งใคร
นอกจากนี้ นายสุชาติ ระบุว่า อยากฝากถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล กรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องลงมาดู ขอให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งวันนี้ที่ตนเองมายื่นเรื่อง ก็มาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ต้องปกป้องสิทธิ์ มาขอความเป็นธรรมจากศาล ทั้งนี้ภายหลังยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ศาลได้รับคำฟ้อง และนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในวันที่ 6 ก.พ. นี้ หลังจากนี้หากศาลมีคำสั่งขอเอกสารเพิ่มเติม ก็พร้อมนำมายื่น เเละหากศาลมีคำสั่งรับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง ตนก็เตรียมพยาน ซึ่งเป็นข้าราชการในกรมเเรงงาน เเละผู้ที่เคยไปใช้เเรงงาน ขึ้นไต่สวนในชั้นไต่สวนมูลฟ้องด้วย.
