“ทักษิณ” เผยโฉมต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง ด้วยท่าทางสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องนั่งวีลแชร์ ไร้ผ้าคล้องแขน หลังกลับมาพักโทษคุมประพฤติ และฟื้นฟูร่างกายที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก่อนจะเดินทางไปที่เชียงใหม่ 3 วัน เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษ ท่ามกลางกำหนดการแน่นเอี๊ยด และสื่อจับตาการพบกันระหว่าง ทักษิณ-เศรษฐา
วันนี้ (14 มีนาคม 2567) เมื่อเวลา 05.19 น. ที่ศาลหลักเมือง ถนนราชดำเนิน กทม. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 และนักโทษที่อยู่ระหว่างพักโทษและคุมประพฤติ สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ ใส่เฝือกอ่อนที่บริเวณลำคอ สวมหน้ากากอนามัย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางมากราบสักการะศาลหลักเมือง ประมาณ 30 นาที ก่อนเดินทางกลับด้วยรถตู้เบนซ์ สีดำ เลขทะเบียน ภษ 1414 กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว
กำหนดการ ‘ทักษิณ’ เยือนเชียงใหม่ 3 วัน
14 มีนาคม 2567
– 09.30 น. “ทักษิณ” เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ และไปดูพืชสวนโลก
– 12.00 น. แวะรับประทานอาหารกลางวัน ร้านช้างม่อยกาแฟ ดูคลองแม่ข่า อ.เมือง ดูหนองเขียวห้วยหยวก และดูหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา อ.แม่ริม
– 16.30 น. ทักษิณ จะรับประทานอาหารเย็นที่ร้านเจี่ยท้งเฮ้ง สาขาฟ้าฮ่าม ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพักกรีนวัลเล่ย์
15 มีนาคม 2567
– 08.30 น. เดินทางไปกราบเจ้าอาวาส วัดพระธาตุดอยสุเทพ และตลาดวโรรส (กาดหลวง)
– 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ร้านข้าวซอยเสมอใจ
– 14.00 น. “ทักษิณ” จะเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ ที่สุสาน อ.แม่ออน และเดินทางไปสนามกอล์ฟอัลไพน์ สุสานวัดโรงธรรม และเดินทางไปบ้านชินวัตร อ.สันกำแพง
– 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น จัดเลี้ยงที่บ้านพักกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม
16 มีนาคม 2567
– 08.30 น. “ทักษิณ” จะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟ Oasis
– 10.00 น. ไปไนท์ซาฟารี
– 11.30 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ ลำดีที่ขัวแดง ก่อนเดินทางกลับ กทม. บ้านจันทร์ส่อง
จับตา “ทักษิณ” พบ “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 16 มีนาคม และคาดหมายว่า อาจจะได้พบปะกันระหว่าง “ทักษิณ” และนายเศรษฐา เป็นครั้งแรกในที่สาธารณะ หลังจากได้พูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ ตามที่นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (13 มีนาคม 2567) “ทักษิณ” ได้เดินทางมาที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และกราบนมัสการ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่ได้รับการพักโทษ และปรากฏต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง.