แซกี หนึ่งในศาสตร์ความเชื่อ ความศรัทธา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความลับสุดยอด ในระดับจักรพรรดิแห่งราชวงศ์จีน ไล่เรียงจนถึงบุคคลชั้นสูงในวังและราชสำนักเท่านั้น ทั้งนี้หากความลับเรื่อง “แซกี” ถูกเปิดเผย นั่นอาจมีผลต่ออำนาจ ความมั่นคง ทั้งในชีวิตและทรัพย์สินด้วย วันนี้ TOPPIC Time by ลี้แต่ไม่ลับ จะพาทุกคนไปไข ความลับเรื่อง “แซกี” สุดยอด “สุสานคนเป็น” ที่ใช้เพื่อพลิกชีวิต “คนเป็น” จากยาจกให้กลายเป็น…จักรพรรดิ
หลายคนอาจยังไม่เชื่อ หรือมองไม่เห็นภาพ นั่นก็ถือว่าไม่แปลก…เพราะเรื่องราวของ “แซกี” เหล่านี้ มันจำต้องถูกปกปิดให้เป็น “ความลับ” เสมอมา ไม่อย่างนั้น ศัตรู คู่แข่ง ฝั่งตรงข้าม ย่อมรู้ถึงกลยุทธ์แห่งการดำรงชีวิตและการทำธุรกิจก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับคนระดับจักรพรรดิ ระดับโลก หรือระดับประเทศด้วยแล้ว เราไม่มีทางที่จะได้ล่วงรู้ ความลับแห่งแซกี นี้เลย แม้กระทั่งตัวซินแสเอง เพราะเจ้าสัวส่วนใหญ่มักจะไม่ใช้ซินแสในประเทศกันทั้งนั้น ก็เพื่อให้ข้อมูลของ “แซกี” ถูกปิดเป็นความลับตลอดไป…
ลี้แต่ไม่ลับ พยายามที่จะนำเรื่องเล่าของ “แซกี” มาบอกกล่าวกัน ให้ได้รับรู้ถึงความลับแห่งความสำเร็จของชีวิต เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า “แซกี” มีผลต่อความสำเร็จของคนระดับชนชั้นสูง เจ้านาย และเจ้าสัวจริงๆ แต่อย่างที่กล่าว ตัวอย่างบุคคลที่เราได้พบเห็นจาก สุสานแซกี ไม่สามารถนำมาเอื้อนเอ่ยได้จริงๆ แม้จะคับปากยิบๆ แค่ไหนก็ตาม นั่นแหล่ะ…มันตอกย้ำที่มาของคำว่า “แซกีจักรพรรดิ” ที่มีแต่คนชั้นสูงและเจ้าสัวเขารู้จักกัน
แต่หลังจากวันนี้…จะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว “การทำแซกี” ถูกกล่าวถึงกันมากขึ้นในชนชั้นธรรมดาสามัญแบบเราๆ เพราะ ลี้แต่ไม่ลับ เชื่อว่าคนเราก็สามารถทำ “แซกี” แล้วเปลี่ยนชีวิตให้ “สำเร็จ” ให้เป็น “เจ้าสัว” ได้ เฉกเช่นคนระดับด้านบน เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว…จากเรื่องเล่าของวันนี้ ถ้ายืมคำซินแสมาใช้ ท่านก็มักจะบอกกับ ลี้แต่ไม่ลับ ตลอดเวลาที่สัมภาษณ์พูดคุยกันว่า…”เดี๋ยวค่อยเล่า!!” ฮ่าๆๆ
เพราะเรื่องเล่ามากมายที่ ลี้แต่ไม่ลับ นำเสนอในวันนี้ ทั้งหมดมาจากกูรู ที่เราพยายามเสาะแสวงหา เพื่อตามหาซินแสตัวจริงมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาเห็นทีจะมีแต่ซินแสสายธุรกิจเสียเยอะ ความซื่อสัตย์ต่อศาสตร์และวิชาชีพ อาจไม่ได้คำนึงถึงมากนัก จนล่าสุดโชคดีมากๆ ได้มาเจอกับซินแสท่านนี้จนได้ ทำให้ ความลับของแซกี จะถูก ลี้แต่ไม่ลับ เปิดเผยสู่คนที่แสนธรรมดาอย่างเราๆ แน่นอน…มันอาจจะไม่ได้ลงลึกถึงขั้นตอนการขุดหลุม วางระบบโครงสร้างใต้ดินหรอก เพราะรายละเอียดมันยิบย่อยมากๆ คุย 3 วันก็คงไม่จบ!! เอาแค่ที่มันเกี่ยวกับว่า…ถ้าคิดจะทำแซกีต้องเริ่มยังไง ต้องรู้อะไรก่อนก็พอ!
รู้จัก สุสานคนเป็น ความลับแห่ง ‘แซกี’ เปลี่ยนชีวิตไปสู่ความสำเร็จ
เริ่มเล่าแบบนี้…การที่ผู้คนจะได้รู้จัก ซินแสแซกี ผู้นี้ ส่วนใหญ่มักจะมาจากปากต่อปาก อันเกิดจากผลงานการทำ แซกี ล้วนๆ ว่ากันง่ายๆ เราไม่สามารถพบซินแสท่านนี้ได้ตามตลาดฮวงจุ้ยแน่นอน เพราะไม่เคยซื้อโพสต์ขายคอร์สใดๆ เลย อาจารย์ฐาปน อังกาบสี (ปัทมะ ทังโช) ฮวงจุ้ยกระแสธาตุ ผู้ที่ไม่เหมือนซินแส แต่ (โคตะระ) มีจรรยาบรรณ ซื่อสัตย์กับศาสตร์แซกี และอาชีพซินแสอย่างแท้จริง
อาจารย์ฐาปน เริ่มเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอรรถรส จะว่าไป…ยังฟังไม่หมดนะ “เดี๋ยวค่อยเล่า” อาจารย์พูดถี่มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนท้ายนะ ลืมไปแล้วก็หลายเรื่องเลย ฮ่าๆๆ ลี้แต่ไม่ลับ ว่า…ถ้าจะฟังจริงๆ เห็นทีจะ 7 วัน ซึ่งเรื่องเล่าอาจจะยาวกว่าขั้นตอนการทำแซกีเสียอีก แต่กระนั้นคุณรู้หรือไม่…เรื่องราวชีวิตที่แสนธรรมดาของอาจารย์นี่แหล่ะ ที่ทำให้ “แซกี” มีความหมาย (อาจารย์อาจยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ) และเราต้องยอมรับว่า…ซินแสส่วนใหญ่ มักจะสร้างภาพเสียเยอะ เรื่องเล่าส่วนตัว มันคือแบล็คกราว์นที่นำไปสู่รายได้เสียมากกว่า แต่สำหรับอาจารย์ท่านนี้แล้ว มันยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าวเสียอีก!
เริ่มแล้ว…ละครโทรทัศน์ไทย สู่ ซินแสแซกี ฮวงจุ้ยกระแสธาตุ
ปริญญาตรี เกียรตินิยม 3 ปีครึ่ง ปริญญาโทวิทยาศาสตร์ กับชีวิตที่ไม่เคยมีศรัทธาในเรื่องราวแบบนี้ วันนี้กลายเป็น ซินแส ผู้เชี่ยวชาญด้าน “แซกี” ฮวงจุ้ยกระแสธาตุ และศาสตร์ที่ลี้ลับสุดๆ แต่ก็ไม่ยากที่จะพิสูจน์ จนกว่าคุณต้องเจอด้วยตัวเอง
ชีวิตที่มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันยังไม่เท่ากับ…ชีวิตที่ไร้ศรัทธา
ชีวิตเหมือนจะดำเนินไปอย่างปกติ เรียนเก่ง หัวดี กอดใบปริญญา 2 เลเวลแน่นๆ มีงานทำ บริษัทใหญ่โตข้ามชาติ โอโห้…ก็ไม่เห็นมีอะไร!! แต่ละวันผ่านไป หายใจท้าทายบทบาทแห่งชีวิตเสมอมา จนวันหนึ่งมีคนที่ (ไม่) รู้จัก ทักทายชีวิตในอนาคตไว้อย่างแม่นยำ เด็กหนุ่มที่ตอนหลังกลายเป็นซินแสสายคอมพิวเตอร์วิทยาศาสตร์ รู้สึกโกรธเกลียดแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง กล้าดีอย่างไรมาทำนายชีวิตผม!
นั่นไม่ได้หมายความว่าโกรธแบบมัวเมา เพราะมันไม่เท่ากับเวลาแห่งอนาคต คืบคลานกลายเป็นเวลา ณ ปัจจุบัน สิ่งท่านผู้นั้นที่ทักทายทำนายเอาไว้ เกิดขึ้นจริงทั้งสิ้น ซึ่งล้วนไม่ใช่เรื่องดีเสียด้วย ความโกรธไม่หาย แต่ความเคลือบแคลงสูงกว่า สูงจนต้อนย้อนกลับไปหาอดีต ยังไงล่ะชีวิต?? ตั้งใจกลับไปหาคนที่ทักทายท่านนั้น อนิจจา…ชีวิตไม่มีอะไรเที่ยง การจากลาตลอดกาลก็เช่นกัน เวลา…มันอาจนานเกินไป แต่ไม่สายเกินจะค้นหาเรียนรู้ ในสิ่งที่ไม่เคยศรัทธา!!
นี่คือ…ละครโทรทัศน์ของซินแสระดับพระกาฬ เรื่องเล่าของอาจารย์ ที่ ลี้แต่ไม่ลับ จะร้อยเรียงไปพร้อมกับความลับของ แซกี เพราะมันแยกกันไม่ออกจริงๆ ลี้แต่ไม่ลับ พยายามจะนำเสนอให้หลากหลายในทุกแง่มุม แน่นอนไม่หมดหรอก เพราะหลายเรื่องก็ลับเกิ๊น เราไปฟังความลับของ “สุสานแซกี” กัน อะไร ยังไง สำคัญไฉน แล้วอะไร ไสยศาสตร์รึเปล่า?
ฮวงจุ้ย…แห่งการทำสุสานแซกี
เรื่องแรก เรื่องสำคัญของการทำ “แซกี” คือ “พื้นที่” ซึ่งต้องถูกตามหลักวิชาการฮวงจุ้ยในการทำ “สุสานคนเป็น” เพราะสุสานที่จะทำเรื่องปรับดวงชะตา จะต้องมีพื้นที่ที่เรียกว่ามีไทเก็กเป็นของตัวเอง อย่างตรงนี้เป็นอาณาจักร อันดับแรกจะต้องมีแนวภูเขาล้อมรอบ และมีลักษณะพิเศษ คือแยกร้อนแยกเย็นอย่างชัดเจน แยกความเป็นหยินหยาง ที่เปรียบเสมือนมีมืดมีสว่าง มีร้อนมีเย็น ถึงจะเรียกว่าเป็นพื้นที่ ที่มันมีความสมบูรณ์ทั้ง 2 ด้าน เป็นพื้นที่มีพลังงานครบถ้วน
“คือต้องไม่มีมลภาวะที่มันเกิดจากสิ่งปลูกสร้าง หรือว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามารบกวน เพราะว่า…พื้นที่ที่จะทำให้ชีวิตคนเรามันดีขึ้นได้นั้น มันต้องอาศัยพลังงานอันบริสุทธิ์ นั่นคือเป็น “พลังงานธรรมชาติ” เหมือนกับเราเลือกที่จะนำอาหารสุขภาพ มาใส่ในร่างกาย ก็เพื่อจะให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น เช่นเดียวกันการที่เราจะเอาพลังงานไว้กับเรา มาทำให้ชีวิตเรายืนยาวขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น หายเจ็บป่วย ร่ำรวย มั่นคั่งและมั่นคง ก็แปลว่า…พลังงานที่เข้ามา มันต้องเป็นพลังงานธรรมชาติที่บริสุทธิ์เหมือนกัน ซึ่งหลักการหรือหลักปราชญ์จีนโบราณนี้ ถูกคิดค้นได้มานับพันปีแล้ว”
แซกี คือ…
“แซกี” คือ หนึ่งในระบบโหราศาสตร์จีน ถูกคิดค้นขึ้นมาแตกต่างกับโหราศาสตร์ชนิดอื่น โหราศาสตร์ชนิดอื่นที่เรารู้จักกัน โดยทั่วไปเน้นการทำนาย แต่ “แซกี” เป็นศาสตร์ที่เน้นหาจุดบกพร่องในชีวิตคนเรา เมื่อค้นพบจุดบกพร่องแล้ว ก็หาว่ามีวิธีการใด ที่จะแก้ไขจุดเสีย ดึงจุดดี นั่นก็คือ…แซกี
“โหราศาสตร์จีน ถูกคิดค้นมาเพื่อปรับปรุงชะตาชีวิตมนุษย์ แต่จะแก้ชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้ ก็ต้องมีเงื่อนไขหลายปัจจัย อันดับแรกเลย เราต้องเจอคนที่รู้วิชาจริงๆ คำว่ารู้จริง ไม่ใช่หมอดูที่ทายปีชง แล้วแก้แบบนั้นแบบนี้ อันนั้นมันแก้อะไรไม่ได้ เพราะลองคิดดูว่า ปีเกิด ที่คนอื่นๆ เกิดมาพร้อมกันกับเราเนี่ย ก็มีทั้งที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และยากจน เพราะฉะนั้นปีเกิด มันเป็นอะไรที่กว้างเกินไป ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับมนุษย์แต่ละคน การจะแก้ได้ก็ต้องเอาวัน เดือน ปีเกิดทั้งหมด มาคำนวณว่า ณ เวลาที่เกิดมา กระบวนการที่ร่างกายประกอบไปด้วยจิตวิญญาณชะตากรรม มีองค์ประกอบในเรื่องของ “ธาตุ” แบบไหน”
เหตุผลที่ทำไมคนเราเกิดมาไม่รวยเหมือนกัน?
ขออธิบายเชิงวิชาการถึงความสมบูรณ์ของมนุษย์ หรือสรรพสิ่งที่เกิดมาบนโลกนี้ ล้วนเกิดจากการที่โลกโคจรรอบลงอาทิตย์ 1 รอบ ซึ่งกินระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งเป็นพลังกำกับชีวิต เช่นเดียวกับพลังของ 12 นักษัตร
“โดยเวลาที่คนเราจะเกิดมาต้องอยู่ในครรภ์มารดา 9 เดือน ก็แปลว่า 9 เดือน ที่เราชาร์จพลังในท้องแม่ มันไม่ครบ 1 รอบ ที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ 12 เดือน เพราะฉะนั้นชีวิตคนเราเกิดมา จึงไม่มีใครสมบูรณ์แแบบ พลังงานถูกชาร์ตมาตั้งแต่กำเนิด และวัน เดือน ปี เวลาเกิดของแต่ละคน มันก็ทำให้เกิดกระบวนการหรือวัฏจักรธาตุในตัวไม่เหมือนกัน คนที่มีปัญหาเยอะ ก็แปลว่าวัฏจักรธาตุในดวงมันทำลายกัน หรือคนที่เกิดมาแล้วมีร่างกายที่พิการ ไม่สมประกอบ คือชะตาดวงกำเนิดตั้งแต่ต้น กับธาตุกำเนิด ไม่สอดคล้องกันนั่นเอง ซึ่งเรื่องของ “ธาตุ” นี้ ก็ถูกพูดถึงในทุกๆ วัฒนธรรม แม้แต่พุทธศาสนา ก็มีการพูดถึงขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือแม้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ก็ยังมีการศึกษาเรื่องธาตุ จนกล่าวได้ว่า…คนเราหรือทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ล้วนมีองค์ประกอบจาก “ธาตุ” ด้วยกันทั้งสิ้น”
ก็ทุกอย่างมันต้องสัมพันธ์กัน…คนดัง เจ้าสัว ก็เช่นกัน
ดิน 5 ธาตุ ตาน้ำ อักษร สัญลักษณ์ จุดทำ ตำแหน่งใกล้แหล่งน้ำ ติดภูเขา หลุมใกล้เคียง ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ศีรษะมังกร จมูกมังกร ปากมังกร สุสานปรับดวง พลังงานสำคัญมากๆ และต้องตรงกับตำราคัมภีร์โบราณ
“สมัยก่อนมันไม่มีอะไรวัด เค้าก็คิดเครื่องมือโบราณ ก็คือเข็มทิศจีนนั่นแหล่ะ เอามาใช้ตามหาว่า ทำไมภูเขา ถึงเป็นพื้นดินที่ปูดโปนขึ้นมา แสดงว่าใต้ดินต้องมีอะไร? ที่ทำให้มันสูงขึ้นมา คนจีนก็คิดค้นอุปกรณ์ขึ้นมานับพันปีแล้ว เพื่อใช้ในทางโหราศาสตร์ เพื่อตามหา ค้นหาพลังงาน ธาตุต่างๆ ที่อยู่ใต้ดินและบนดิน ก่อนจะนำไปใช้ในการเดินเรือในเวลาต่อมาเสียอีก”
“เรื่องเล่าแบบนี้มันเยอะมาก…ฟังแล้วจะเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งก่อนก็ได้นะ แล้วฟังเสร็จก็ไล่เรียงดูชีวิตของแต่ละคนเอา ว่าเป็นเช่นนั้นจริงมั้ย?” อาจารย์ฐาปน กล่าวกับ ลี้แต่ไม่ลับ
ความลับของ แซกี ..ที่เล่าได้ไม่หมด!
ไปค่ะ…ไปบุกสุสาน ออกอากาศไม่ได้ จึงพอจะสรุปใจความแบบนี้…
ยกตัวอย่างที่ 1…ข้าราชการธรรมดาของหน่วยงานหนึ่ง เมื่อ 8-9 ปีก่อน ชีวิตไปต่อไม่ได้ ไม่มีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ตอนแรกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าแซกีคืออะไร พอได้ฟังปัญหา ผมก็บอกว่า…ต้องทำแซกี เค้าตัดสินใจเอาทรัพย์สินของแม่ไปเข้าธนาคาร เพื่อเอาเงินออกมาทำแซกี เค้าบอกว่า…เมื่อมันเป็นหนี้แล้ว จะเป็นหนีอีกก้อน เพื่อมาทำแซกีจะเป็นอะไรไป ผ่านไป 3 เดือน เค้าก็ได้ค่าทำแซกีคืน
ยกตัวอย่างที่ 2…ส่วนคนนี้เคยมีปัญหาคดีความ ไม่ใช่เรื่องเดียวหรือ 2 เรื่อง มีเป็นสิบๆ เรื่อง จึงคิดมาทำแซกี เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ หวังให้ชีวิตจากรอดพ้นจากวิกฤต สุดท้ายทุกวันนี้…ก็อยู่สุขสบายดี
ยกตัวอย่างที่ 3…กลุ่มวิทยาศาสตร์ การแพทย์สมัยใหม่ หมูกหมอ ก็ทำแล้ว โน้นตั้งตระหง่านอยู่ในสุสานคนเป็น
ยกตัวอย่างที่ 4…ชีวิตคนนี้สุดยอด ทำแซกีไว้ถึง 4 หลุม เพื่อให้ตัวเองสมบูรณ์ที่สุด แล้วทุกวันนี้ก็อาจจะสมบูรณ์เกิน ทั้งเงินทอง สุขภาพ ความรัก แถมไม่ต้องทำงานทำการ ก็อยู่ไปสบายอีก 300 ภพเลยทีเดียว
โอ้ว…ถ้าทุกคนได้ฟังเรื่องเล่าแบบ ลี้แต่ไม่ลับ นะ ขอบอกว่า…ของจริง!! เพราะเจ้าของ สุสานแซกี แต่ละหลุม ทุกวันนี้มันคือคำตอบชัดเจนแล้ว เอื้อนเอ่ยไม่ได้เลยจริงๆ พูดไป…ไม่มีใคร ไม่รู้!!
จุดผลิก…เปลี่ยนชะตาตัวเอง 16 ปีศาสตร์แห่งความล้มเหลว แต่ แซกี กลับมาดึงขึ้น!
เล่าของคนดังมามาก ลี้แต่ไม่ลับ ถามถึงเรื่องเล่าของอาจารย์บ้าง อาจารย์เปิดฉากมาอย่างว้าว…
“เรียนมา 16 ปีล้มเหลว คือเรียนหมอดูมาแล้ว ไม่สามารถตีความปริศนาอะไรได้ทั้งหมด ผมก็เลิกเป็นหมอดู ไปขายของตลาดนัด ช่วงที่อำลาวงการหมอดู ไปขายของ ตอนนั้นมีพ่อแม่ค้ามากมายอยู่แถวนั้น ทุกคนล้วนขายของไม่ได้ ผมก็เช่นกัน เดือดร้อนกันจริงๆ และด้วยความที่ว่าง ของไม่ได้ขายกัน ผมก็นั่งดูดวง คิดเงิน 30 บาท ก็ไม่มีใครมาดู เรียกว่าเจ๊งเลย ทีนี้เลยดูดวงฟรีให้กับพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น โดยเลือกที่จะคิดใหม่กับปริศนา กับปมที่คาใจ ก็ลองเอาความรู้ที่ร่ำเรียนมา มาลองผิดลองถูกใหม่ ลองไม่ทำตามที่ตำราเขียนไว้ นั่นแหล่ะที่ทำให้ผมค้นพบว่า…ใน “ตำราโบราณ” คนสมัยก่อนเค้าจะไม่บอกอะไรตรงๆ เค้าบอกแบบกลับหน้ากลับหลัง ทำให้การลองผิดลองถูกกับพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงกับตัวเองในครั้งนั้น จึงเป็นการค้นพบคำตอบที่ว่า…ทำไมที่ผ่านมาล้มเหลว”
“ชีวิตในตอนนั้นบัดซบมาก การดูดวงฟรีเพื่อแลกกับการเอาเสื้อผ้าของคนมาดูดวงฟรีไปขาย เป็นอะไรที่โหดมาก สุดท้ายผมก็ได้กลับมาใช้วิชาพวกนี้ เพราะมันดึงตัวผมเองจากจุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต ให้กลับขึ้นมาได้ นี่มันเรื่องจริงทั้งนั้น ที่ผมเล่า ไปถามคนที่อยู่รอบตัวผมได้เลย”
ล้มเหลว เพราะคิดว่า “ขยัน” ยังไงก็ไม่อดตาย!
ลี้แต่ไม่ลับ ถามอาจารย์แบบงงงวยว่า 16 ปี มันยาวนานมาก อาจารย์ต้อง Expert และเชี่ยวชาญแล้ว ทำไมถึงกลับบอกว่า…ล้มเหลว!!??
“ผมเรียนวิชาเหล่านี้ตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ แต่ตอนล้มเหลว คือผมไม่เอาอะไรแล้ว ไม่เป็นแล้วหมอดู เลยเอาเงินทุนก้อนสุดท้าย มาเปิดร้านขายเสื้อผ้าแล้วมันก็เจ๊งไง เพราะตอนนั้นมีความคิดว่า “คนขยัน” เนี่ยะ ยังไงมันก็ไม่อดตาย แต่เชื่อมั้ย…ช่วงนั้นมีเหตุการณ์ทางการเมือง ขายของไม่ได้ ธุรกิจผมก็เลยเจ๊ง ผมเลยเข้าใจแล้วว่า…ขยันอย่างเดียวก็ยังไม่ได้อีก เพราะสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิต แล้วเราควบคุมมันไม่ได้เลย นี่แหล่ะเหตุผลที่มันเป็นปัจจัย ที่เกิดจากการที่โลกไม่โคจรรอบตัวเรา ผมก็เลยคิดว่า…ทำอย่างไรล่ะ ที่จะทำให้เราได้โคจรไปในทิศทางเดียวกับโลก ก็เลยคิดได้ว่า…งั้นเราก็ทำให้ DNA ของเรา สอดคล้องกับการโคจรของโลกสิ เวลาที่ผมคิดทำอะไร มันจะได้ถูกจังหวะเวลา ถูกทิศทางเดียวกันกับการเป็นไปของโลก”
พิสูจน์ด้วยตัวเอง ชีวิตคนขายของตลาดนัด แซกี ทำเปลี่ยนเป็นอีกคน!
การทำ แซกี มันแก้ไขได้ผลชะงักที่สุดแล้ว ลี้แต่ไม่ลับ ฟังแล้วก็ชะงักตาม แต่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์ฐาปนกำลังเล่า เพราะสุดท้ายอาจารย์บอกว่า ก็เป็นเพราะผม…ก็ทำกับตัวเองมาไง เข้าใจแล้วนะทุกคน!!
ถ้าเราใช้ชีวิตไปตามดวงชะตา มันก็เป็นไปตามนั้น แบบที่ผมเจอผมเป็นมา เหมือนเช่นทุกคน (รวมถึง ลี้แต่ไม่ลับ ด้วยจ้า 5555)
มันไม่ใช่แต่ผม แซกี ก็เปลี่ยน “ยาจก” เป็น “จักรพรรดิ” ได้
ยกตัวอย่างระดับจักรพรรดิ แซกี ลูกชาวนา ซึ่งเป็นคนแรกที่ทำให้วิชา แซกี เป็นที่รู้จักก็คือ “จูหยวนจาง” จักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์หมิง เป็นเพราะเค้าเกิดมาต่ำต้อย เป็นลูกชาวนา พ่อแม่เสียชีวิต ต้องไปอาศัยเป็นเณรอยู่วัด และรู้สึกว่าไม่อยากยอมแพ้กับชีวิต และคิดดูว่าในอดีตนับพันปีก่อน การกีดกันทางชนชั้น มันเยอะกว่าปัจจุบัน ดังนั้นกว่าจะเป็นจักรพรรดิได้นั้น มันไม่ง่าย ตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า แซกี มีผลโดยตรง ซึ่งจูหยวนยางก็หา ซินแส เพื่อทำแซกีให้กับตนเอง ก่อนจะพลิกชีวิต จนกลายไปเป็นจักรพรรดิได้ และหลังจากความตาย สุสานจูหยวนยาง ก็ยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้ และกลายเป็นสถานที่โด่งดังไปแล้ว ไปลองหาอ่านเรื่องเล่ากันได้ ลี้แต่ไม่ลับ ไปอ่านมาหมดแล้ว ล่าสุดต้องเปิดซีรีส์ดู จนตาค้างไปเลยจ้า
แซกี ไม่ใช่ศาสตร์ของคนรวย
เปลี่ยนความเข้าใจเสียใหม่!! แซกี เหมาะกับคนที่ไม่อยากจะยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิต หรือคนที่อยากจะรู้ว่า…ขีดสุดของตัวเองนั้นไปถึงไหน? มันไม่ใช่ศาสตร์ของคนรวย มันคือเรื่องของคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำแซกี ไม่ใช่สตางค์ มันคือความพยายาม!
“ผมก็ทำแซกีตอนที่ผมจน ตอนที่ผมมีเงินเก็บหลักหมื่น และผมก็ทำแซกีหลักล้านด้วย แต่ผมมาที่นี่ตั้งแต่แรกๆ เลย ตอนนั้นยังผ่อนได้ ผมกะว่า…มีปัญญาผ่อนแค่ 4 งวด ก็รู้เรื่องแล้ว ถ้าไม่ได้ก็เจ๊ง ก็ถือว่าได้ทำอะไรที่มันสุดยอดแล้ว ช่างมัน…วัดกันไปเลย แต่เชื่อมั้ย? ปีแรกผมมีเงินเก็บ 1 ล้านบาททันทีเลย จากที่ทั้งชีวิตไม่เคยเก็บได้ จากหาเช้ากินค่ำ จ่ายค่าเช่าร้านยังไม่ได้เลย นี่คือเรื่องจริง!”
ความลับของการทำ “แซกี” ให้สำเร็จ
ความสำเร็จจากการทำ “แซกี” มันมีองค์ประกอบเยอะมาก ทุกปัจจัยมีผลต่ออำนาจ วาสนา โชคลาภ เงินทอง และสุขภาพ ของแต่ละบุคคลทั้งสิ้น เนื่องจากแต่ละคน ก็มีกระแสธาตุไม่เหมือนกัน ดังนั้นการทำแซกีให้สำเร็จ…จึงต้องเป็นเรื่องของการทำให้คนๆ เดียว ในเวลาฤกษ์ยามที่ใช่จริงๆ สำหรับบุคคลคนนั้นด้วย
“ส่วนความลับหนึ่งอย่างที่อยากจะบอกก็คือเรื่อง “พื้นที่” พื้นที่ที่ ลี้แต่ไม่ลับ ยืนอยู่ มันมีผลกับการทำ “แซกี” ให้ได้ผลจริงๆ ด้วยตอนนี้ใครๆ ก็เป็นซินแสได้ แต่ซินแสหลายคนก็มีองค์ความรู้ที่ไม่เท่ากัน อย่างเรื่องที่มีมังกรอยู่ในจุดนี้ ผมเก็บเป็นความลับมานาน แต่วันนึงก็มีคนมาแอบนำเรื่องที่ได้ยินไปพูดต่อ มันเลยอาจทำให้ลดทอนความเป็นวิชาชีพลง เพราะเกิดจากแค่การจำเค้ามา ซึ่งนั่น…ไม่ใช่ความซื่อสัตย์ที่มีต่อศาสตร์แซกีของผมอย่างแน่นอน”
จุดสูงสุดของชีวิต = ซินแสแซกี
ตอนสมัยที่เริ่มศึกษาเรื่องศาสตร์นี้ใหม่ๆ ตอนอายุ 20 กว่าปลายๆ ผมเคยคิดนะว่า…จุดสูงสุดของศาสตร์นี้ คือการได้มาทำแซกี ผมก็อยากจะมาให้ถึงจุดสูงสุด แล้ว ณ ปัจจุบัน! วันนี้! ผมก็ได้ทำ ศาสตร์แซกี แล้ว มันก็ถึงจุดที่มันเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตผมแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะไม่ซื่อสัตย์กับความเป็น ซินแสแซกี เลย
ก่อนจะเป็น ซินแสแซกี เป็น หมอดู มาก่อน
ตอนสมัยเป็นหมอดู ผมก็จัดฮวงจุ้ยเอาสตางค์เหมือนกัน ทำตามตำราเลย บางครั้งมันก็มี…ที่ทำแล้วได้ผล ทำแล้วไม่ได้ผล เพราะอะไร เพราะว่าตำรามันไม่เขียนบอกหมด การศึกษาด้วยการอ่าน หรือเรียนรู้จากครูบาอาจารย์ บางครั้งมันมาจากตำรา หลายอย่างอาจไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่นั่นมันคืออาชีพ คือปากท้องในการทำมาหากิน
“แต่สุดท้ายเชื่อมั้ย? ในใจลึกๆ ของผมเอง บางครั้งมันตอบลูกค้า ตอบคนที่มาทำกับผมได้ไม่สนิทใจ มันกลายเป็นปมในชีวิตผมเลย ผมก็เลยตัดสินใจเลิกเป็นหมอดู เพราะในเมื่อไม่บรรลุสักที เสียเวลาเรียนมา 10 กว่าปีแล้ว เลิกดีกว่า เพราะตอนนั้นก็ยังเชื่อว่า…อาศัยขยันแบบที่เล่าก่อนหน้า แล้วไปเปิดร้านขายของดีกว่า ไม่ต้องอายใครเวลาที่ตอบอะไรไม่ได้ นั่นแหล่ะ…มันคือจุดเปลี่ยนของการได้มาทำ ศาสตร์แซกี ที่ว่าพอไม่ทำตามตำรา คิดใหม่ กลับบรรลุเฉยเลย ตรงนี้เลยที่ผลักให้ผมมาอยู่ในจุดนี้ จุดที่เป็นความปรารถนาสูงสุดของผมแล้ว”
ชีวิตหลังทำแซกี ยังต้องการอะไรอีก?
เอาผมเป็นอย่างตัวอย่างเลย ผมรู้สึกว่า หลังผมทำ แซกี เรื่องงาน ชีวิตผมมาถึงจุดนี้แล้ว มันคือที่สุดแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไร ณ จุดนี้ แต่เวลาที่ผมได้ช่วยคนที่มาทำแซกีนี่สิ แล้วผมทำให้เค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็มีความสุขนะ แล้วผมก็เชื่อว่า…เรื่องดีๆ มันก็กลับมาหาผมเอง นอกเหนือจากเรื่องสตางค์ จรรยาบรรณต้องมี!
คำกล่าวของ 2 ซินแสปรมาจารย์ ซินแสแซกี
เดินไปสักพัก ก็ได้เจอ ซินแสอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคนต่างชาติ ก็ได้พูดคุยกันเล็กน้อย ลี้แต่ไม่ลับ ก็ถามตอบกันสนุกๆ ในเรื่องความคิดของการเป็นซินแสแซกี ที่ทุกวันยังไม่เลิกทำ เพราะมเมื่อมันเหนื่อย มันร้อน ต้องตากแดดตลอดเวลา คำตอบที่ได้ มันก็ว้าวดีนะ…ทั้ง 2 ซินแส มีความคิดเห็นไม่ต่างกันกันเลย ว่าเค้าทั้งคู่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ นั่นไม่ใช่เพราะเงินตรา แต่เป็นความสุขที่ได้มีส่วนช่วยชีวิตใครสักคน ที่เดินเข้ามาหามาปรึกษา แล้วทำให้ชีวิตของเขาเหล่านั้นดีขึ้น
ลี้แต่ไม่ลับ ฟังแล้วกลับสัมผัสได้ถึงคำที่ว่า นี่สิของจริง…มันต้องแบบนี้!!
เทคนิคการเลือก ซินแสทำแซกี
สุดท้ายก็ขอความรู้มาเผื่อแฟนๆ ทุกคน สำหรับเทคนิคการเลือกซินแสทำแซกี ซินแสปรมาจารย์ทั้ง 2 คน ก็ตอบเหมือนกันเลย ซึ่งก็ทำให้ได้ว้าวอีกแล้ว กับคำตอบที่ว่า อาจารย์หรือซินแสทำแซกี มีเยอะมาก แต่ในนั้น 50% อาจไม่รู้จริง ซึ่งมีผลให้ทำแซกีไม่ถูกต้อง และทำให้ชีวิตคนอื่นไม่สำเร็จได้ ทั้ง 2 ท่านเลยแนะนำว่า…เอาแบบไม่พูดเว่อร์ แล้วไปดูผลงานที่เค้าทำมา อาจารย์บางคนก็ซี้ซั้ว เลือกคนที่มีจรรยาบรรณ ชีวิตคุณจะได้ดีขึ้นจริงๆ สมกับการที่ได้ทำแซกี เพราะแซกีมันเปลี่ยนชีวิตได้จริง ถ้าทำให้ถูกต้องตามหลักการของการทำสุสานคนเป็นแบบโบราณ
ขั้นตอนการทำ แซกี
ขั้นตอนการทำ แซกี มันก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย คำว่ายุ่งยากให้เป็นเรื่องของ ซินแสฐาปน ไป ส่วนเราก็แค่ใช้ดีเอ็นเอของเรา ใส่ลงไปในสุสานคนเป็น ที่ถูกออกแบบอย่างเฉพาะเจาะจงในแบบของเราเอง เพื่อให้ตรงกับธาตุของเรา ก็เพื่อความสำเร็จของตัวเราเองเพียงคนเดียว และใช้ฤกษ์ยามของเราคนเดียวเท่านั้น เท่านั้น! บอกแล้วยาก…ยกให้อาจารย์ไป! ส่วนดีเอ็นเอที่ว่า ก็มี…ผม เล็บ เลือด ของเรานั่นเอง! ส่วนการทำแซกี ก็มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำแบบไหน หลุมใหญ่ หลุมเล็กแบบเจ่าอุ๋ง หรือเต่านั่นเอง
เอาล่ะ…เรื่องเล่าของวันนี้ ความลับของแซกี ยาวเสียยิ่งกว่ายาว เขียนมัน 3 วัน 7 คืน นี่ยังมีอีกเยอะนะ ที่ไม่ได้นำเสนอ และก็ที่นำเสนอไม่ได้ ลี้แต่ไม่ลับ ก็ตั้งใจให้มันเป็น ความลับของแซกี ต่อไป อยากรู้ก็ไปสอบถามกับอาจารย์ได้ เพราะอันนั้นมันคือ ความลับของแซกีคุณ แต่ที่ ลี้แต่ไม่ลับ พยายามจะคัดสรรเรื่องเล่า ก็เลือกเรื่องที่มันสะท้อน ความสำเร็จของแซกี ไปพร้อมๆ กับเรื่องเล่าของคนทำ เพื่อให้เราได้ภาพและเข้าใจศาสตร์แซกีมากขึ้น ไม่เพียงแต่คุณๆ ผู้อ่าน ลี้แต่ไม่ลับ เองก็เปิดโลกมากมายเช่นกัน
ใครอยากให้ ลี้แต่ไม่ลับ ขุดคุ้ยเรื่องอะไร นำเสนอกันเข้ามาได้ เพราะเราพร้อมจะเป็นคอมมูนิตี้ให้กับแฟนๆ TOPPIC Time จริงๆ ไม่ว่าเรื่องนี้จะยากเย็นแค่ไหน เราจะเปิดประเด็นไปพร้อมๆ กัน
โปรโมชั่น แซกีเต่ามังกร
อย่างไรก็ดี…เรามีเรื่องราวดีๆ มาฝาก โดยเราสามารถใช้ “ศาสตร์แซกี” ศาสตร์จีนโบราณที่เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนดวงชะตา และทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแซกี อาจารย์ฐาปน อังกาบสี “ซินแสแซกี” อันดับ 1 ของประเทศไทย กับการนำฮวงจุ้ยกระแสธาตุ มาพลิกชีวิตทุกคนให้เป็น “เจ้าสัว”’ ล่าสุดกับโปรโมชั่นนำชีวิต “แซกีเต่ามังกร” สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อน ก็เริ่มต้นทำได้ตั้งแต่วันนี้ กับโปรโมชั่นผ่อนนานถึง 12 เดือน ติดตามได้ที่ เพจฮวงจุ้ยกระแสธาตุ รับรองชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป ถ้าได้พูดคุยกับ ซินแสแซกี ท่านนี้!!…