ปีนึงผ่านไปเร็วมากๆ โควิด 19 มา ทำเป็นลืมๆ เผลอแปบเดียวถึงเทศกาลวันสำคัญของลูกหลานคนจีนอีกแล้ว หนึ่งในนั้นก็มี วันสารทจีน เป็นวันสำคัญและถือเป็นประเพณีที่ลูกหลานจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษซึ่งล่วงลับไปแล้ว แถมยังถือกุศโลบายในการให้ทุกคนในครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างพร้อมหน้า วันนี้ ซ้อใบ้ จะพาทุกคนไปเปิดมุมมองเรื่องราวของ วันสารทจีน แบบง่ายๆ กระชับๆ อ่านนะถือว่าเอาบุญคนเขียน ถือเสียว่า…รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามเนอะ 5555
รู้ลึกตำนาน วันสารทจีน และของไหว้ที่ควรรู้!
วันสารทจีน คือ
เทศกาล วันสารทจีน ตามปฏิทินทางจันทรคติ จะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ที่ชาวจีนเรียกว่า “กุ่ย เจี๋ย” หรือ “หวางเหรินเจี๋ย” โดย วันสารทจีน คือ วันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยการจัดพิธีเซ่นไหว้ด้วยอาหาร ของคาว ของหวาน และชาวจีนยังถือว่า เดือน 7 นี้เป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลาย มารับกุศลผลบุญได้บนโลกมนุษย์ ส่วนความเชื่อของคนไทย…ก็เชื่อว่า วันนี้ประตูนรกเปิด เค้ามักจะทำพิธีทางไสยศาสตร์มนต์ดำกันวันนี้ด้วยจ้า (หึย…ขนลุก)
ตำนานของ วันสารทจีน
ตำนานก็คือตำนาน ถ้าตำไม่นาน..ก็เรียกว่าตำแปบเดียว (แฮ่!!) ตำนานของ วันสารทจีน ว่าไว้ด้วยกัน 2 ตำนาน TOPPIC Time ขอสรุปให้ฟังแบบเน้นๆ เลยค่ะ ดังนี้
ตำนานที่ 1
ตำนานแรกว่าไว้ดังนี้…วันสารทจีน เป็นวันที่เงี่ยมล้อเทียนจือ หรือยมบาล จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ก่อนส่งวิญญาณดีขึ้นไปสู่สวรรค์ และส่งวิญญาณร้ายลงนรก ชาวจีนทั้งหลายรู้สึกสงสารวิญญาณร้าย จึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ดังนั้นจึงมีการเปิดประตูนรกให้ เพื่อให้วิญญาณร้ายได้ออกมารับกุศลผลบุญนี้นั่นเอง ซ้อใบ้ ชวนลองคิดเล่นๆ ดู ตายไปคุณจะได้เดินผ่านประตูนรกมากินหมี่ซั่ว ไก่ต้มมั้ย รึจะเป็นคนดี…ไปกางปีกกินอาหารทิพย์อยู่ที่สวนลูกท้อ (ตอบเบาๆ..ไม่ต้องออกเสียง เดี๋ยวคนข้างๆ ได้ยิน!)
ตำนานที่ 2
มาถึงตำนานที่ 2 ตำนานจริง เพราะเรื่องเล่ามันเยอะเสียเหลือเกิน ตำนานนี้มีอยู่ว่า…มีชายหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า “มู่เหลียน” หรือว่า “พระมหาโมคคัลลานะ” ผู้เคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้า ไม่เคยเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศากาลกินเจ นางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้าน โดยนางจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ…ว่าซั่น!!
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดี ที่ทราบข่าวว่า มารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียน แต่หาทราบไม่ว่า…ในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย (ปั่ดโถ่ว…อร่อยไปอีก แถมดีกับสุขภาพ) แต่การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้น ถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุด และได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อ มู่เหลียน ผู้เป็นลูก คิดถึงมารดา ก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่า…มารดาของตนกำลังอดอยาก จึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมด และเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้น กลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดา ที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส มู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง หรือพี่ยมบาล ว่าตนของรับโทษแทนมารดาได้มั้ย…(สาธุ…นะลูก)
ยมบาลก็บอก…OK. แต่ก่อนที่ มู่เหลียน จะถูกลงโทษ ด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่า…กรรมใดใครก่อ ก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้น และพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่อง เพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทาง มาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่างๆ ได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน และถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิด จึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ โดยจะนำอาหารทั้งคาวหวาน และกระดาษเงินกระดาษทอง ไปวางไว้ที่หน้าบ้าน หรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก มีนัยว่า…เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อน ที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน จึงเป็นที่มาของการไหว้ ที่ต้องไหว้ 3 จุด 3 ชุด
ของไหว้ วันสารทจีน
ของไหว้วันสารทจีน จะประกอบไปด้วยอาหารคาว อาหารหวาน และที่พิเศษคือ ขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อว่า..สีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทอง
ความหมาย อาหารคาว ของไหว้วันสารทจีน
– ไก่ คือ ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
– เป็ด คือ ความสะอาด ความบริสุทธิ์ สมองปลอดโปร่ง เฉลียวฉลาด
– หมู คือ ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
– ปลา คือ ความอุดมสมบูรณ์ มีโชคลาภ เหลือกินเหลือใช้ และประสบความสำเร็จ
– กุ้ง คือ เสริมบารมีเป็นสิริมงคลกับชีวิต
– ปู คือ การมีชื่อเสียง เสริมบารมี
ความหมาย อาหารหวาน ของไหว้วันสารทจีน
– ขนมเข่ง คือ การมีชีวิตที่ดี ราบรื่น และอุดมสมบูรณ์
– ขนมเทียน คือ การมีชีวิตที่ดี ทำสิ่งใดก็ราบรื่น และมีความหวานชื่น
– ขนมกุยช่าย คือ การมีชีวิตที่ยืนยาว การประสบพบเจอความโชคดี
– ขนมถ้วยฟู คือ ชีวิตที่เจริญ เฟื่องฟู งอกงาม สมบูรณ์พูนสุข
– ขนมเปี๊ยะ คือ ความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง
– ซาลาเปาหรือหมั่นโถว คือ ห่อโชคลาภหรือเงิน-ทองมาให้ลูกหลาน
ความหมาย อาหารหวาน ของไหว้วันสารทจีน
– ส้ม คือ ความโชคดี ร่ำรวย หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงความสามัคคี กลมเกลียว
– กล้วย คือ ความสำเร็จ โชคลาภ รวมถึงการมีลูกหลานสืบสกุล
– สับปะรด คือ การกวักโชคกวักลาภให้เข้ามา
– องุ่น คือ ความร่ำรวย ความเจริญงอกงาม และมีอายุยืน
– แก้วมังกร คือ แก้วสารพัดนึก ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต รวมถึงความอุดมสมบูรณ์
– แอปเปิ้ล คือ การมีชีวิตที่สงบสุข ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
– สาลี่ คือ โชคลาภ ความมั่นคง การพบเจอสิ่งดีๆ ในชีวิต
– ลูกพลับ คือ การผ่านพ้นอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่น ความยั่งยืน มั่นคง และรุ่งเรือง
– ทับทิม คือ การมีบุตรที่ดี มีลูกชายมาก
วิธีจัดของไหว้ วันสารทจีน 3 ชุด
1. ของไหว้เจ้าที่ – ไหว้ตอนเช้า
– อาหารคาวหวาน กุยช่าย
– ขนมเทียน ขนมเข่ง
– ผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน
– กระดาษเงินกระดาษทอง
2. ของไหว้บรรพบุรุษ – ไหว้ตอนสาย
– อาหารคาวหวาน กุยช่าย
– อาหารข้าวที่บรรพบุรุษชอบ
– กับข้าวที่เป็นน้ำแกง
– ข้าวสวย
– ขนมเทียน ขนมเข่ง
– ผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน
– กระดาษเงินกระดาษทอง
3. ของไหว้สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน – ไหว้นอกบ้านตอนบ่าย
– อาหารคาวหวาน
– ผลไม้ตามต้องการ
– ข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่
– เหล้า น้ำชา
– กระดาษเงินกระดาษทอง
เรื่องเล่า วันสารทจีน ที่จัดเต็มด้วยตำนาน ของไหว้ วิธีไหว้ ข้อควรรู้ และข้อมูลที่อ่านง่าย ไม่ยาก แม้จะยาว ซ้อใบ้ ตอบโจทย์คนไทยที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้มีความสุขในวันที่ญาติๆ พร้อมหน้าพร้อมตา แต่อย่าลืม…อยู่ในห่างกัน ป้องกันโควิด ไหว้สารทจีนแบบ New Normal ใช้เทคโนโลยี ไหว้สารทจีนผ่านไลน์…ก็ได้นะ
Hello วันสารทจีน…