เกิดอะไรขึ้นคนที่ไม่ใช่สายมูอย่าง “อั๋น ภูวนาท” เพราะจู่ๆ เจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยถึงเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตา แต่เขานั้นสามารถรับรู้ได้ด้วยหัวใจ อาจเพราะอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หรือเปล่า? สิ่งนี้ก็ยังไม่สามารถระบุความชัดเจนได้ ถึงแม้จะไม่ใช่สายมู แต่ก็มีเหตุให้ต้องจัดทริปพิเศษพร้อมเพื่อนฝูงเพื่อมุ่งไปสักการบูชา “องค์พญานาค” ไกลถึงถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ทั้งนี้หนุ่ม “อั๋น ภูวนาท” ได้เล่าถึงความเป็นมาในทริปพญานาคครั้งนี้เอาไว้ว่า…
“เกิดอะไรขึ้นกับคนไม่มูอย่างอั๋น อยู่ๆ ถึงลุกขึ้นมาจับทริปไปถ้ำนาคาเสียเอง เพื่อนๆ สายวิทยาศาสตร์ตกใจตาโตจนแทบเหมาเครื่องบินร่วมทริป …
เรื่องของเรื่องคือ พี่อั๋นดันไปเผลอคุยในใจกึ่งท้าทายแบบไม่ได้ก้าวร้าวอะไรกับรูปปั้นพญานาคในห้องแต่งตัวที่บ้านที่ อาจารย์ชื่อดังท่านนึงอยู่ๆ ก็เดินเอามาให้ใส่มือเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว แล้วสิ่งที่พูดไปดันเกิดเป็นจริงขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นทันที เพราะพี่อั๋นดันบอกไว้ว่า”แล้วผมจะไม่ Doubt (สงสัย)ในการมีอยู่ของท่านอีกและจะไปกราบท่านที่ถ้ำนาคา”เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ละครับคุณตำรวจ ยังคงยืนยันจะไม่มู แต่ไม่ได้แปลว่าไม่เชื่อไม่เคารพหรือไม่ศรัทธา แต่เลือกจะเอาพลังนั้นบันดาลเป็นแรงให้ตัวเองลงมือทำ มากกว่าจะยกให้มันเป็นภารกิจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีบางอย่างที่บางทีก็ยากจะปฏิเสธว่ามันยิ่งใหญ่กว่ากำลังสมองของผมจะทำความเข้าใจ แต่ยืนยันว่าจะไม่ฝากความหวังไว้กับสิ่งเหล่านั้นเป็นสำคัญ ยังเป็นอั๋นคนเดิมที่มีพื้นที่หัวใจไว้สำหรับความคิดเห็น มุมมอง ศรัทธาและความเชื่อที่แตกต่างอย่างเคารพกันและกันเสมอครับ”
จากนั้น “อั๋น ภูวนาท” ก็โพสต์อีกแคปชั่นเล่าถึงภาพที่มีลำแสงแปลกออกไปจากภาพของคนอื่นและเรื่องราวของตนเองที่น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัวตอนที่ได้ก้มกราบ
“ก่อนขึ้นถ้ำนาคามีชาวบ้านผู้ใหญ่คนนึงบอกผมว่า รู้ไหมลองดูนะบางคนบางรูปจะถ่ายติดแสงสีฟ้าเขียวเรืองรองออกมาจากเศียรพญานาคอย่างไม่มีเหตุผล (เลื่อนดูรูปที่ 2-3) ในขณะที่บางคนบางรูปไม่มี…คิดแบบเด็กวิทย์อย่างผมก็บังเอิญแหละ…ก็แค่การหักเหของแสงและเลนส์”
“เศียรพญานาคปู่อือลือตามตำนานจะมี 9 เศียร อั๋นไปมาแค่ 2 นะครับ เอาจริงๆ คือก็คิดเองว่าไหว้เศียรเดียวก็พอ อีก 8 เศียรน่าจะคุยกันเองได้ นี่ไม่ได้กวน คิดจริงๆ อธิษฐานยาวๆ บางทียังอธิษฐานว่าขอแบบเดิมแล้วยกมือจบทีเดียวเลย แต่ก็ตั้งจิตตั้งใจจริงนะครับ ย้อนกลับมาที่เศียรพญานาค เอาแค่ 2 เศียรนี้นะ ถ้าจะบอกว่ามันเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา ฝน ลม แดด ความร้อน ความชื้น กัดเซาะ จนออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาเกือบจะเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 อยู่ห่างกันคนละมุมเขา อันนึงอยู่กลางแจ้ง อันนึงอยู่ในถ้ำ ทำไมมันถึงออกมาได้เหมือนกันขนาดนี้ แถมยังมีตาอยู่ตรงตำแหน่งที่เป๊ะถูกต้องทุกองศาแบบไม่มีผิดเพี๊ยน! บังเอิญแหละ!!!”
“แต่เอ๊ะ… บังเอิญเหรอ?!? ตอนยกมือขึ้นไหว้ตรงหน้าเศียรที่ 1 ข้าพเจ้าน้ำตาไหลร่วงเป็นหยดจนตัวเองยังตกใจ ไม่ได้รู้สึกถึงสัญญาณหรือรับรู้อะไรพิเศษเหนือจริงนะครับ แต่แค่รู้สึกปลื้มปิติที่ตัวเองไม่ยึดติดกับความไม่เชื่อของความเป็นคนไม่มูของตัวเองจนมาถึงที่นี่ได้ #ถ้ำนาคา #บึงกาฬ #ภูลังกา #ยังคงไม่มูนะแต่ไม่ได้ไม่เชื่อ”